บทสัมภาษณ์นี้นำเสนอความรู้เกี่ยวกับวิสัยทัศน์การบริหารธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และองค์ความรู้ด้านกัญชาเพื่อการใช้ทางการแพทย์ มิได้ส่งเสริมให้ใช้กัญชาโดยปราศจากคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ


            หลังจากที่เราคุยกับแม่ปุ๊ก-อรพินทร์ พญาพิทักษ์สกุล และคุณมี่-ธนารัตน์ จิตต์พายัพ ถึงเรื่องอาณาจักรกัญชา THCG ที่มีกัญกุลเอ็นจิเนียริ่งมาสู่ขอด้วยสินสอดกว่า 500 ล้านบาท เราก็ได้ทำความรู้จักกับแคเมรอน เคลิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Sunderstorm คู่ค้าทางธุรกิจรายล่าสุดที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลจากสหรัฐอเมริกามาร่วมงานกับ THCG 

            ซึ่ง Sunderstorm คือผู้ผลิตกัญชารายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ในเมืองใหญ่อย่างเมืองลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ทุกคนต้องรู้จักชื่อ Sunderstorm และ Kanha แบรนด์กัมมี่กัญชาที่เป็นที่รู้จักกันดีของชาวเมืองเทพสร้าง

            ไม่เพียงเท่านั้น Sunderstorm ยังขยายอาณาจักรของตัวเองไปยังต่างรัฐของสหรัฐอเมริกา เช่น โคโลราโด ซึ่งมีโจทย์ที่ต้องพิชิตไม่เหมือนกัน รวมถึงการออกเดินทางไปยังบ้านใกล้เรือนเคียงนั่นคือ แคนาดา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน

            จนวันนี้ที่คุณแคเมรอนเดินทางมาจับมือกับ THCG ในฐานะพาร์ตเนอร์รายล่าสุด และไทยก็เป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่ Sunderstorm มาทำตลาด เราจึงได้รับโอกาสพิเศษมากๆ ในการคุยกับเขาในการ ‘รันวงการ’ กัญชาตั้งแต่ปี 2014 ถึงเรื่องราวตลอดเกือบ 10 ปีที่เขาล้มลุกคลุกคลาน และต่อสู้จน Sunderstorm ยืนหยัดได้จนถึงวันนี้

            และกำลังจะมาร่วมงานกับ ‘แม่’ ของวงการกัญชาไทย

เริ่มต้นด้วยคำถามง่ายๆ เลยค่ะ กัญชาส่งผลต่อชีวิตของคุณคาเมรอนอย่างไรบ้าง ?

            สำหรับผม ผมเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของเกี่ยวกับยาสมุนไพร ผมเที่ยวไปรอบโลกแล้ว และได้พบกับทั้งคนเร่ร่อน หมอผี และได้พบกับประสบการณ์ที่แตกต่างมากมาย ผมเป็นคนที่เชื่อในพลังของพืชมากครับ มนุษย์ใช้ประโยชน์จากพืชมาแล้วหลายชั่วอายุคน ผมว่ามันน่าตื่นเต้นสำหรับเรามากที่พืชเหล่านี้จะกลายเป็นยาเพื่อรักษามนุษย์ได้อย่างแท้จริง

อยากให้คุณแคเมรอนเล่าถึงสถานการณ์ใน ลอส แอนเจลิส ช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะเกิดการก่อตั้งบริษัท ณ ตอนนั้นมีอุปสรรคในเรื่องการซื้อ-ขาย ให้คนกับคนในพื้นที่นั้นบ้างไหม ?

            แคลิฟอร์เนียอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นกัญชาอยู่แล้ว ส่วนตัวผมเชื่อว่าเราสามารถสร้างผลิตภัณฑ์กัญชาที่ดีที่สุดในโลกได้ครับ นี่คือมรดกตกทอดที่มีมานานมากของเรา ในปี ค.ศ. 1996 แคลิฟอร์เนียประกาศอนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้พืชกัญชาด้วยตัวเองได้แล้วแต่ยังไม่ได้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายหรือวางกฎระเบียบกันแบบจริงจัง 

            ช่วงปี 2014-2015 เรากระโดดเข้ามาอยู่ในตลาดเทาๆ ซึ่งยังไม่ได้ถูกกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน ส่วนในสหรัฐคือสิ่งที่ผิดกฎหมายนะครับ แต่อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ในแคลิฟอร์เนีย เราเลยอยู่ในช่วงของการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ทุกคนสามารถบริโภคและซื้อขายได้ 

            ในจุดนั้นมันเป็นอะไรที่ยากเลยครับ เพราะเราต้องทำธุรกิจแบบแอบๆ อยู่ในมุมมืด ซึ่งบางครั้งมันก็อันตรายด้วย แล้วบางครั้งที่เราต้องทำธุรกิจ เราต้องคิดด้วยว่าเราเองเป็นใคร และใครจะมาเป็นหุ้นส่วนกับเราในธุรกิจนี้ได้บ้าง อย่างในปี 2018  การแพทย์และกฎหมายพืชกัญชาถือเป็นสิ่งถูกกฎหมายแล้วในแคลิฟอร์เนีย ทุกอย่างเปลี่ยนได้ในชั่วข้ามคืนเลยครับ 

            แต่แน่นอนว่าภาษีสูงขึ้นมากเลยครับ การดำเนินธุรกิจก็ยากขึ้น แต่ ณ เวลานั้นเราไปเปลี่ยนในจุดนี้ไม่ได้ครับ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็พัฒนาบริษัทนี้ได้ โดยไม่ได้กังวลเรื่องการปิดตัวลงของธุรกิจเลย ซึ่งมันคือสถานการณ์เดียวกันที่กำลังจะเกิดกับประเทศไทยในตอนนี้ และกำลังจะเกิดขึ้นกับประเทศอื่นของแถบเอเชียในอนาคตด้วย อย่างที่ผมบอกไป ตอนนี้คือช่วงที่ผู้คนกำลังตื่นเต้นกับธุรกิจกัญชามากเลยครับ

ก่อนที่คุณจะกระโดดเข้ามาในอุตสาหกรรมยา คุณเคยลองกัญชาด้วยตัวเองไหม ?

            แน่นอนครับ ผมเป็นลูกค้ารายใหญ่ของกัญชาเลย (หัวเราะ) ผมเคยลองมันครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วครับ แต่ร่างกายของผมเซนซิทีฟมาก ผมเลยใช้มันได้ไม่มากนัก ผมชอบ CBD มากกว่าครับ เพราะมันมีประโยชน์กับร่างกายผม แต่ผมก็สนุกกับการใช้ยาสมุนไพรมากกว่าที่ตัวเองคิดอีกครับ ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่ดีมากของโลกเลยครับ เพราะพืชของเรากำลังจะกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกค้ามากขึ้นครับ

ทำไมคุณถึงสนใจเกี่ยวกับการค้นคว้าเรื่องยาสมุนไพร

            ผมรู้สึกว่ามันมีสิ่งหนึ่งที่เราเรียกกันว่า แพทย์แผนตะวันตกและแพทย์แผนตะวันออกใช่ไหมครับ  ซึ่งพวกเราเชื่อว่า พวกเราผสมผสานทั้งสองสิ่งนี้มาเข้ากันได้ดีมากเลยล่ะครับ ซึ่งการแพทย์แผนโบราณก็ต้องผ่านกระบวนการแบบทั้งแพทย์แผนตะวันตกและแผนตะวันออก เพื่อนำมาใช้ในทางเภสัชกรรมได้ ผมเชื่อว่ายาทั้งสองแบบแผนนี้อยู่ทุกๆ ที่ที่มีผู้คนครับ แต่ผมเชื่อว่าการมีกระบวนการทดสอบยาสมุนไพรเป็นสิ่งสนับสนุนให้เขารู้ว่ามันจะปลอดภัยสำหรับเขา เขารู้ตัวว่ากำลังกินอะไรอยู่ ซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญที่เราโฟกัสเลยครับ  

ย้อนกลับไปในยุค 90 ในตอนนั้นคุณแคเมรอนรับมืออย่างไรกับสถานการณ์ที่กัญชายังไม่ถูกกฎหมายเสียทีเดียว

            ช่วงที่กัญชายังไม่ถูกกฎหมาย คือคุณก็ยังใช้กัญชาได้แบบที่ต้องระวังเรื่องกฎหมายมาก แต่ด้วยเพราะเหตุนั้นมันเลยไม่มีข้อห้ามเรื่องการใช้กัญชา ไม่มีกฎเกณฑ์ ข้อบังคับและไม่มีการเสียภาษีด้วย แต่ข้อเสียของมันคือไม่มีการควบคุมเรื่องสารตกค้าง สารจำกัดศัตรูพืชที่มีอันตรายเยอะมากในกัญชา ซึ่งผู้บริโภคยังไม่เข้าใจในจุดนี้ และในบางครั้งที่ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์จากกัญชาเข้าไป มันอาจจะมีความแรงเกินไป หรือบางทีผู้บริโภคใช้มันเร็วไปหรือใช้มันน้อยไปก็มีครับ

            มันมีความไม่ชัดเจนของการใช้ผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดเวลาครับ บ่อยครั้งที่ผู้บริโภคต้องเสี่ยงอันตรายเพราะได้รับสารเคมีตกค้างเหล่านี้ ดังนั้นถ้าอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้รับการควบคุม มันจะเกิดการทดสอบและตรวจสอบสารเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ นั่นแปลว่าผู้บริโภคสามารถรู้สึกไว้วางใจได้ เพราะมันมีความปลอดภัย และได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์เป็นแบบไหน ใช้อย่างไร นี่คือข้อดีของการควบคุมครับ

            แต่ในส่วนที่ยากลำบากสำหรับเราคือเรื่องภาษีที่มันสูงมากครับ (หัวเราะ) มันเลยทำให้อุตสาหกรรมกัญชาในสหรัฐอเมริกามีต้นทุนสูงมาก และมีผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกรรายย่อยและธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากที่เขาสนใจในธุรกิจกัญชา แต่เขาต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดได้ในอุตสาหกรรมนี้ ผมว่านี่จึงเป็นข้อเสียเลยครับ

            น่าเสียดายที่จริงๆ แล้วมีการเกิดขึ้นของนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถพัฒนาต่อได้เพราะธุรกิจเล็กๆ ไม่สามารถอยู่รอดได้และไม่สามารถทำเงินได้ด้วยครับ เพราะงั้นสิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับอุตสาหกรรมนี้ แต่พวกเรากำลังหาวิธีที่จะจัดการกับสถานการณ์ภาษีในปัจจุบันอยู่ครับ เพื่อให้มีความเท่าเทียมกันระหว่างตลาดบนดินกับตลาดมืด สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นตลอดเวลา เราเลยกำลังจะแก้ไขมัน แต่สถานการณ์ในวันนี้มันค่อนข้างยากลำบากเลยครับ

อะไรคือความเสี่ยงของการทำธุรกิจในตลาดที่มีความ ‘เทา’ แบบนี้

            ความเสี่ยงเยอะแยะมากมายเลยครับ บางคนก็ต้องเข้าคุก ธุรกิจของหลายคนก็ต้องปิดตัวลง หลายคน บางคนก็เสียเงินไปเยอะมาก มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากครับ เพราะธนาคารสามารถตรวจสอบการเงินของการทำธุรกิจเหล่านี้ได้ครับ ทั้งความขัดแย้งใต้ดินระหว่างตำรวจและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งสหรัฐอเมริกาเองก็พยายามสั่งปิดธุรกิจนี้ด้วย เพราะงั้นมันเลยเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากครับที่ต้องทำงานอยู่ในมุมมืดครับ

คุณมองภาพบริษัทของตัวเองในอนาคตไว้อย่างไร อย่างแผน 1 ปี หรือ 5 ปีข้างหน้า

            ผมว่ามันเริ่มตั้งแต่แรกที่เราเริ่มต้นทำบริษัทเคมีภัณฑ์เลยครับ แล้วก็ตั้งแต่เริ่มพยายามทำกัญชาถูกกฎหมายในรัฐต่างๆ ผมกับพาร์ตเนอร์ เราดูตลาดกันมาหลายตลาดมาก จนในที่สุดพาร์ตเนอร์ก็บอกผมว่า “พวกเราควรก่อตั้งได้แล้ว” เพราะผมมองหาตลาดทุกที่เลย และสิ่งที่เราค้นพบคือตลาดกัญชาแคลิฟอร์เนียที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้วในตอนนั้น ที่นั่นเขาอนุญาตให้มีการซื้อขายกัญชาคุณภาพสูงที่มีการกฎหมายควบคุมอย่างดี ซึ่งนั่นทำให้มีการตลาดการแข่งขันสูงด้วยที่สุด

            พวกเราเลยตัดสินใจเริ่มต้นที่แคลิฟอร์เนียครับ เพราะเรารู้สึกว่าพวกเราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่และเรารู้สึกว่าถ้าเราเอาชนะตลาดแข่งขันในแคลิฟอร์เนียได้ เราก็สามารถทำอะไรก็ได้จากที่ตรงนี้ แต่เป้าหมายสำคัญของเราคือการที่เป็นหนึ่งใน 10 แบรนด์ชั้นนำของแคลิฟอร์เนียก่อน ซึ่งเราทำสำเร็จเป้าหมายนี้ในช่วงปี 2018-2019 หลังจากนั้นเราจึงค่อยขยับขยายแบรนด์กัญชาของเราไปที่ประเทศต่างๆ ในปี 2020 เพราะงั้นในช่วงปี 2020 จึงเป็นปีแห่งการวางแผนเพื่อขยับขยายฐาน ซึ่งในปี 2021 เราได้ขยายแบรนด์ของเราไปยังอีก 3 รัฐ และได้ดำเนินการต่อเข้าไปยังแคนาดา และนั่นคือสิ่งที่เราทำมาในช่วงระยะเวลา 2 ปีครับ

            ซึ่งความสำเร็จในวันนั้น พวกเราเลยต้องการเห็นแบรนด์กัญชาของเรากลายเป็นแบรนด์ระดับโลก ซึ่งการได้โอกาสมาที่ประเทศไทย เป็นอีกโอกาสที่เราตื่นเต้นมากๆ เพราะเราทำอะไรที่สหรัฐอเมริกาได้ไม่มากนัก พวกเราไม่สามารถขนส่งสินค้าจากแคลิฟอร์เนียไปเนวาดาได้ เราจึงต้องจัดตั้งเรื่องการดำเนินการขนส่งแยกออกมาต่างหากด้วยตัวเอง ทำให้เราโดนขัดขวางการขนส่ง ถูกจับ แล้วก็ไม่สามารถส่งออกสินค้าได้

            ด้วยโอกาสที่เราได้มาถึงประเทศไทย เราได้รับประโยชน์จากการที่ในตลาดมีคนไทยกว่า 70 ล้านคน และยังมีเรื่องราวการใช้ยาสมุนไพรกันมานานรวมถึงกัญชาด้วย มันเลยเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้น แล้วเราก็ยังได้รับโอกาสอันน่าเหลือเชื่อในการส่งออกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เราไปทั่วโลกได้อีกด้วย ซึ่งตอนนี้แบรนด์ Kanha ก็เป็นแบรนด์กัญชารายแรกในระดับโลกแล้วด้วย ในตอนนั้นเรามองแค่การเติบโตในแคลิฟอร์เนียและเป็นอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่มีสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลกใช่ไหมครับ แต่ในตอนนี้เราตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นแบรนด์กัญชาอันดับหนึ่งรายแรกของโลกครับ  

ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ได้ภายใน 4 ปี คุณทำได้ยังไง

            การทำงานหนักและการมีทีมที่เจ๋งครับ พวกเรามีทีมงานสุดยอดเยี่ยมมากที่ Sunderstorm พวกเขาฉลาด ทำงานหนักและทุ่มเท ซึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากตั้งแต่การคัดเลือกพนักงานนั่นก็คือ การเข้าใจถึงคุณค่าและความหมายของกัญชาอย่างแท้จริง ซึ่งการมีแพสชันที่อยากให้กัญชาไปสู่ระดับโลก ทีมเราจึงทำงานหนักมากๆ ครับ

เราเห็นข้อมูลโปรไฟล์ทั้งของคุณแคเมรอนและพนักงานของคุณบน Linkedin เราเลยสงสัยว่าคุณแคเมรอนอยากร่วมงานกับคนแบบไหน

            เราต้องการคนหลากหลายประเภทเลยครับ แต่อย่างแรกเลย คนเหล่านี้ต้องมีแพสชันในเรื่องพืชมากๆ นั่นคือสิ่งสำคัญเลย เพราะอย่างการทำเยลลี่กัญชา มันคือการอยู่กับเยลลี่นี้ทุกวัน พวกเขาต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ เหล่านี้กันทุกวัน ดังนั้นแพสชันคือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยครับ นอกจากนี้เรายังต้องการบุคลากรที่ขยัน ทุ่มเท มีความละเอียดรอบคอบ และเชื่อในวิสัยทัศน์ที่เรากำลังทำด้วยกันอยู่ครับ นี่คือส่วนประกอบสำคัญของสมาชิกทุกคนในทีมของเราในเวลานี้เลยครับ

ภาพ: Sunderstorm

สิ่งที่คุณลงทุนกับบริษัทมากที่สุดคืออะไร

            ผมว่าเราลงทุนไปกับบุคลากรครับ เพราะคนสำคัญมาก เรามีพนักงานเป็นคนรุ่นใหม่อยู่ในทีมเยอะนะครับ เพราะพวกเขามีแพสชันในการทำสิ่งนี้กับพวกเรา ผู้จัดการฝ่ายผลิตอายุห่างจากพวกเขา 23-25 ก็มีนะครับ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ลงทุนและคอยพัฒนาทักษะที่จำเป็นให้กับหน้าที่ของทุกคนเสมอ นั่นจึงเป็นเหตุว่าทำไมการลงทุนกับทรัพยากรมนุษย์จึงสำคัญครับ

            แต่แน่นอนว่าเราก็ลงทุนกับระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ด้วย สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับผมคือเทคโนโลยีครับ ในช่วงแรกเริ่มเรารู้กันอยู่แล้วว่าเราจะใช้โครงสร้างที่มีต้นทุนถูกที่สุดแต่ดีที่สุดในแต่ละประเภท เราอยากใช้เทคโนโลยีหรือระบบต่างๆ ให้คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเรายังเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้ ขณะที่หลายๆ บริษัทสูญเสียเงินกับการลงทุนไปจำนวนมากอย่างที่เราเห็นกันได้ในทุกวันนี้

            ถึงแม้เราจะค่อยเป็นค่อยไปกับการทำธุรกิจ แต่การลงทุนกับเรื่องระบบและการวางรากฐานต่างๆ เราลงทุนไปกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์เพื่อติดตั้งระบบ ERP เรารู้ต้นทุนของหมากฝรั่งของเราทุกชิ้น เรารู้ต้นทุนทุกขั้นตอนทุกกระบวนการของเราเอง เพราะเรารู้ดีว่าเราไม่สามารถขยับขยายฐานธุรกิจได้หากไม่ลงทุนอะไรเลยกับเทคโนโลยี  

การขยายฐานธุรกิจไปสู่รัฐอื่นๆ มีความท้าทายอย่างไรบ้าง

            มันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากเพราะเราต้องวางแผนและระบบธุรกิจของเราใหม่หมดเลยครับ เรื่องนี้ซับซ้อนมากเพราะทุกรัฐมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันไป อย่างคุณต้องตั้งโรงงานใหม่เพราะไม่สามารถส่งสินค้าข้ามรัฐได้ เราเลยต้องวางแผนการผลิตใหม่ตลอด เราต้องแยกการขายกับการตลาดออกจากกันและผู้บริโภคของแต่ละรัฐก็มีความต่างกันด้วย แถมยังต้องจัดการกับแบรนด์กัญชาที่เขามีมาก่อนอยู่แล้วในท้องถิ่นของแต่ละที่อีกด้วย เพราะผู้บริโภคหลายคนชอบบริโภคสินค้าที่มีความเฉพาะที่ทำขึ้นมาเฉพาะเพื่อพวกเขาเท่านั้น ซึ่งจุดนี้มันก็ดีครับที่จะทำให้เราได้ปรับตัวเข้ากับตลาดของแต่ละรัฐ แต่การดำเนินการทุกอย่างเหล่านี้ล้วนใช้ต้นทุนที่ราคาสูงมากในสหรัฐอเมริกา เพราะเรื่องการขนส่งข้ามรัฐยังไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมายด้วย ดังนั้นนี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปครับ 

            นอกจากนี้ เราจึงจัดระบบรถเพื่อการขนส่งเป็นสิ่งที่สามารถไปจอดอยู่ในหลายๆ รัฐได้ ราคาการขายกัญชาก็แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ ดังนั้นเราเลยเลือกที่จะจัดส่งวัตถุดิบแบบสดใหม่ข้ามรัฐได้ เป็นเหมือนกับการจัดส่งผลิตภัณฑ์กัญชาข้ามรัฐได้ครับ

ช่วงที่ขยับขยายบริษัทออกไปนอกลอส แอนเจลิส อะไรคือสิ่งที่ท้าทายในช่วงเวลานั้น 

            ความท้าทายสำหรับผมในช่วงนั้นคือการขยายไปที่เมืองโคโลราโดครับ พวกเราก็ดำเนินการต่างๆ ของพวกเราเองหมด ซึ่งทุกอย่างมันราคาแพงมาก ที่นั่นเป็นตลาดกัญชาที่ถูกกฎหมายแห่งแรกของสหรัฐอเมริกาครับ เพราะงั้นการเปรียบเทียบหรือแข่งขันด้านราคามันจึงคาดเดายากกว่าที่เราคิดไว้ เราเลยปรับระบบและโมเดลอะไรหลายๆ อย่างใหม่หมดเพื่อการทำธุรกิจที่นี่ครับ นี่นจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับผม คุณรู้ไหมว่าระหว่างทางผมได้รับประสบการณ์จากมันมากมายเลย ซึ่งบางครั้งเราก็ต้องเดินไปในทางที่เราไม่ได้ต้องการจะไป แต่เพราะแบบนั้นมันเลยทำให้ผมเห็นความท้าทายของการกระโดดเข้ามาอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ แล้วผมก็พร้อมที่จะรับมือกับมันด้วย

ภาพ: Sunderstorm

หลังความสำเร็จในสหรัฐอเมริกาแล้วจึงขยายธุรกิจไปที่แคนาดา ความเหมือนและความแตกต่างของทั้งสองรัฐนี้คืออะไร

            แคนาดาเป็นตลาดที่แตกต่างจากที่อื่นสำหรับเรา จริงๆ เราเปิดตัวที่แคนาดาช่วงโควิด-19 เราไม่อยากลงแรงมากเพราะมันอยู่ไกลจากเราด้วย เราจัดการเรื่องการขอใบอนุญาตต่างๆ เพื่อทำการเทรนให้คนในพื้นที่ได้ทำผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เรากันที่นั่นเลย เราต้องโฟกัสกับพลังของตลาดที่แคนาดาครับ แคนาดาเป็นตลาดที่ท้าทาย ที่มีความผันผวนมาก และมีตลาดอยู่เยอะเลย ตรงนั้นมันก็เป็นโอกาสสำหรับเรานะครับ แต่มันไม่ใช่โอกาสที่ต้องเวลาและลงแรงไปกับตรงนั้นมากมาย เราเลยเลือกที่จะทำเรื่องจดใบขออนุญาตที่นั่นแทน

ถ้ามองจากมุมคนนอก ตลาดกัญชาในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง

            น่าสนใจครับ ผมมองภาพใหญ่เหมือนกับภาพการพัฒนาธุรกิจของแคลิฟอร์เนียเลย แน่นอนว่ามันก็มีความแตกต่างแหละครับ แต่ประเทศไทยมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ที่คนผูกพันกับยาสมุนไพรมายาวนานพอๆ กับแคลิฟอร์เนียเลย และตอนนี้ที่นี่ก็เป็นตลาดเทาๆ ครับ ดังนั้นเรากำลังคุยกันว่าจะทำให้ที่นี่เป็นตลาดที่กัญชาถูกกฎหมายและควบคุมได้ให้ได้

            ภูมิทัศน์ของวงการยาเปลี่ยนไปช่วง 2018 ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เริ่มมีมาวางขายกันบ้างแล้ว กระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ประเทศไทยสามารถขายกัญชาได้ทุกที่แล้ว ซึ่งแคลิฟอร์เนียใช้เวลากว่าหนึ่งศตวรรษเลยนะครับกว่าจะเดินทางมาถึงจุดที่ไทยอยู่ในตอนนี้ได้ กว่าจะเข้าสู่ขั้นตอนของการจัดระเบียบกฎหมายและการควบคุมแบบนี้ ซึ่งช่วง 1996–1998 แคลิฟอร์เนียยังอยู่ในยุคของตลาดแบบเทาๆ อยู่เลย ซึ่งผมแน่ใจว่าที่นี่จะไม่แตกต่างกันมากครับ ผมแน่ใจว่าจะมีการกำกับควบคุมดูแลอย่างจริงจังภายใน 12-24 เดือนข้างหน้านี้

            แต่ในตอนนี้ประเทศไทยก็ยังอยู่จุดที่ตลาดมันมีความเทาๆ อยู่ครับ เพราะมันมีการควบคุมการซื้อขายได้แต่ยังไม่มีการทดสอบประสิทธิภาพของกัญชาอย่างจริงจัง ดังนั้นผู้บริโภคจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีอะไรอยู่ในกัญชาบ้าง ซึ่งในอนาคต ประเทศไทยอาจจะต้องมีการปิดตลาดมืดลง การซื้อขายกัญชาที่เคยซื้อกันได้ง่ายและสะดวกอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป เป็นกระบวนการตามที่แคลิฟอร์เนียเคยผ่านมาแล้วครับ

ภาพ: Sunderstorm

            ผมว่ามันเหมือนภาพย่อส่วนที่เคยเกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนีย แต่มันจะต้องเร็วกว่านั้น เพราะอย่างที่บอกว่ามันน่าสนใจมากที่ตลาดยาเกิดพัฒนาการขึ้นแล้วในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แม้ประเทศไทยจะเต็มไปด้วยร้านกัญชาเป็นพันๆ ร้านแต่ผู้บริโภคไม่มีทางรู้ว่ามีอะไรอยู่ในผลิตภัณฑ์กัญชาบ้าง ผู้บริโภคไม่รู้ว่ามันมาจากตลาดมืดไหม หรือมาจากตลาดที่มีการควบคุมแล้ว เพราะงัั้นสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างชวนสับสน ซึ่งจริงๆ ตอนนี้แคลิฟอร์เนียก็ยังอยู่ในข่วงเวลาที่น่าสับสนเหมือนกัน แต่ตอนนี้มีหลายที่ที่เริ่มเข้าสู่ธุรกิจกัญชาอย่างรวดเร็วแล้ว ดังนั้นการแข่งขันที่กำลังจะสูงขึ้นในอนาคตอาจจะทำให้หลายๆ อย่างเปลี่ยนไป อาจมีไดนามิกที่แตกต่างเกิดขึ้นมากขึ้นสำหรับโอกาสในประเทศไทย ซึ่งเป็นโอกาสที่อาจจะมีมากกว่าแคลิฟอร์เนียและสหรัฐอเมริกาด้วย

            ประเทศไทยกำลังจะก้าวไกลกว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในสหรัฐฯ จนกว่าจะแก้ปัญหาและเอาตัวรอดจากเรื่องพื้นฐานอย่างเรื่องกฎหมายได้ ผมยังคิดในแง่ดีและคาดหวังในอนาคตว่า เมื่อมีการควบคุมอย่างถูกกฎหมายแล้ว การควบคุมต่างๆ จะไม่ผลักภาระให้ผู้ประกอบการมากจนเกินไป ผมคิดว่าภาษีที่นี่อาจจะไม่สูงเท่าที่อเมริกานะ ผมเชื่อว่าที่นี่จะมอบโอกาสให้ธุรกิจกัญชาได้สร้างบริษัทขึ้นมา อีกประเด็นที่สำคัญคือค่าแรงงานและค่าครองชีพของประเทศไทยถูกกว่าสหรัฐอเมริกามาก ซึ่งเหมาะกับการสร้างโอกาสต่างๆ ระดับโลกที่ประเทศไทยจริงๆ ตลาดไทยจึงเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจสำหรับผมมากครับ

คุณแคเมรอนเฟ้นหาหรือติดต่อพาร์ตเนอร์คนไทยเพื่อมาร่วมงานกันได้ยังไง

            เรามีประสบการณ์ในการทำงานกับลูกค้าที่สหรัฐอเมริกามาเยอะ ผมว่านั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ THCG มาเป็นพาร์ตเนอร์กับเราครับ เพราะเราเข้าใจวิธีการให้ความรู้ต่างๆ แก่ผู้บริโภค เรารู้วิธีแจ้งข้อมูลแก่ผู้บริโภค และเรารู้จักวิธีใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคด้วย 

            ผมว่าเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ เราค่อนข้างคล้ายกันครับ แน่นอนว่าในเรื่องวัฒนธรรมมันมีความแตกต่างครับ เราต้องเข้าใจวัฒนธรรมไทยให้มากขึ้น เพราะ THCG คือพาร์ตเนอร์ที่สามารถช่วยเหลือเราได้จริงๆ อย่างการได้ใช้ทรัพยากรในพื้นที่หรือในท้องถิ่น ได้หารือเกี่ยวกับกลยุทธ์และวิธีการต่างๆ ในตลาดไทยด้วย และผมมองว่าที่นี่จะให้โอกาสใหม่ๆ ซึ่งสหรัฐอเมริกาให้เราไม่ได้ด้วยครับ แล้วผมก็คิดว่าเราจะได้ทำงานที่หลากหลายขึ้นที่นี่ด้วย เพราะงั้นการมีพาร์ตเนอร์มันช่วยเรามากๆ 

            สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการควรจดจำเอาไว้คือ การที่เราไม่เคยเห็นกัญชาในไทยไม่ได้แปลว่ามันไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่กัญชา ทั้งเบียร์หรือยาเสพติดกระทั่งปี 1972 ซึ่งเราคิดว่าในปีนั้นไทยอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับอเมริกาเลย ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วเราต้องให้ความรู้กับผู้บริโภคกันที่ละรายๆ ว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้ปลอดภัยและผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถช่วยพวกเขาได้อย่างไรบ้าง 

            มีผู้บริโภคจำนวนมากที่ปกติเขาไม่บริโภคกัญชาเลยแต่เขามาค้นพบว่าจริงๆ กัญชาช่วยให้หลับสบายขึ้นได้ ผมมองว่าองค์ประกอบต่างๆ ในการตัดสินใจเลือกบริโภคสินค้าของผู้บริโภคมีความสำคัญมากครับ และด้วยประเทศไทยคุ้นชินและเคยใช้ยาสมุนไพรกันมานานและหลากหลายอยู่แล้ว ดังนั้นผมมองว่าผู้บริโภคที่นี่จริงชอบการรักษาด้วยยาสมุนไพรมากกว่า ผมเล็งเห็นว่าเราใช้ประโยชน์จากจุดนี้ในการทุำธุรกิจได้ ซึ่งที่เราต้องทำคือ ต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องเพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้สึกสบายใจและเข้าใจกับการบริโภคยาเหล่านี้อย่างถ่องแท้

ทำไมคุณแคเมรอนถึงตัดสินใจเป็นพาร์ตเนอร์กับ THCG

            อย่างแรกเลยครับ THCG เขามีความตั้งใจที่จะใช้ระบบที่มีการควบคุมอย่างเต็มที่ เขาเป็นพาร์ตเนอร์ที่มีความรู้และประสบการณ์เรื่องกัญชา และเขายังมีโรงงานผลิตของตัวเองที่มีความพร้อมต่อการเป็นหุ้นส่วนกันด้วย พวกเขามีโรงงานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่น่าทึ่งมาก มันเหมาะกับการส่งออกทั้งในและต่างประเทศได้ในตลาดที่มีความหลากหลาย อีกทั้งเขายังมีทีมงานคุณภาพที่เข้าใจในธุรกิจนี้เป็นอย่างดีด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสที่ดีมากที่จะได้สร้างธุรกิจร่วมกันครับ

            ผมต้องกล่าวอีกเรื่องเลย ก็คือระบบโครงสร้างพื้นฐานของ THCG มีประสิทธิภาพมากๆ เขาได้ให้แบรนด์ Kanha เป็นแหล่งโรงงานไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาให้เขาด้วย มันคือการสร้างพันธมิตรมากกว่าที่เราจะเป็นคู่แข่งกันครับ พวกเขาเข้าใจคุณค่าของแบรนด์ เข้าใจคุณค่าของระบบโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่าง และเข้าใจความสัมพันธ์ของทีมงานในทุกระดับเลย ดังนั้นผมรู้สึกว่า THCG เหมาะกับเรามากๆ ครับ และผมก็ตื่นเต้นมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับพวกเขา

เรื่องล่าสุดที่ได้เรียนรู้จาก THCG 

            สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือเรื่องคุณภาพของสิ่งอำนวยความสะดวกและโรงงาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้เยี่ยมชมโรงงานของพวกเขา มันทำให้ผมประทับใจมากเลย เพราะมันทำให้ผมเชื่อมั่นและมั่นใจมากขึ้นว่า พวกเราจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ระดับโลกที่สามารถส่งออกไปทั่วโลกภายใต้มาตรฐาน GMP ได้จริงๆ นั่นคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่ผมได้เรียนรู้เลย โครงสร้างพื้นฐานหลายๆ อย่างของเขาก็ดีมากเช่นกัน จนตอนนี้ผมมีความมั่นใจในระดับที่สูงมากๆ เลยว่าพวกเราจะสามารถสร้างบางสิ่งบางอย่างร่วมกันได้ในอนาคตจริงๆ

สปอยล์เกี่ยวกับแผนการขยายธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยให้เราฟังหน่อยได้ไหม

            ผมว่าเรากำลังจะเดินหน้าอย่างรวดเร็วเลยครับ แม้ว่าตลาดในตอนนี้มันจะมีความยากต่อการเข้าใจ และอาจจะหลงทิศไปบ้างเพราะความซับซ้อนทั้งหลายแหล่ แต่ผมคิดว่าการได้จดทะเบียนของ THCG จะทำให้เรามีโอกาสทางธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ ในอุตสาหกรรมนี้ด้วย ดังนั้นแค่เพียงตั้งตารอสิ่งที่จะเกิดในอนาคต เพราะคุณกำลังจะได้เห็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากมายเกิดขึ้นแน่นอนครับ

Contributors

Contributors

เด็กมนุษย์ฯ ผู้ชื่นชอบการออกไปเดินเที่ยวคนเดียว เอนจอยกับการเต้นและการกิน ปัจจุบันกำลังพยายามใช้ชีวิตแบบ Slow Life อยู่

นักเล่าเรื่องที่ใช้ตัวอักษรเป็นเครื่องมือและศรัทธาในพลังของงานเขียน ผู้ชอบตัวเองตอนนั่งสัมภาษณ์ผู้คนที่สุด