ขออีก 10 นาที
ประโยคที่เราเชื่อว่าหลายคนมักพูดกับตัวเองทุกเช้าที่ตื่นนอน เพราะอยากนอนให้เต็มอิ่มขึ้นอีกหน่อยก็ยังดี แม้ว่าถึงจะนอนต่ออีกสิบนาทีแต่ก็ยังรู้สึกง่วงหลังตื่นนอนอยู่เช่นเคย ซึ่งการนอนไม่เต็มอิ่มหรืออาการนอนไม่หลับของคนเราทุกวันนี้ กลายเป็นเรื่องปกติที่คนมักคิดว่า หากได้หยุดพักผ่อนจากภาระงานต่างๆ การนอนหลับคงกลับมาอยู่ในสภาวะปกติได้เอง แต่แท้จริงแล้ว การนอนที่ไม่ปกติอาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพได้โดยที่เราไม่รู้ตัว
เราได้มีโอกาสคุยกับอุ้ม-ทักษอร คงคาประเสริฐ ที่หลายคนมักจดจำเธอในชื่อ อุ้ม-อัญยา เพราะเธอคือผู้ก่อตั้ง อัญยา คลินิก-Anya Meditec คลินิกที่พลิกชีวิตของใครหลายคน ด้วยการดูแลคุณภาพการนอนอย่างจริงจัง
อุ้มจับเข่าเล่าเรื่องราวของอัญยาคลินิกให้เราฟัง ตั้งแต่การเริ่มต้นตั้งไข่คลินิกในยุคที่ยังไม่มีใครสนใจเรื่องการนอนหลับ ความผิดปกติของการนอนหลับที่คนมักมองข้าม วิธีก้าวผ่านอุปสรรคในตลาดธุรกิจที่เธอเป็นผู้บุกเบิก จนไปถึงแพสชันที่เปี่ยมไปด้วยความรักในการช่วยเหลือผู้คนของอุ้ม ที่ทำให้เธอกลายเป็น อุ้ม-อัญยามาจนถึงทุกวันนี้
คุณบอกว่าคุณชอบช่วยเหลือคนอื่น แล้วทำไมถึงเลือกช่วยคนอื่นด้วยการเปิดคลินิกการนอน
จุดเริ่มต้นมันมาจากความรักที่อยากช่วยเหลือคนอื่น การช่วยเหลือคนเราช่วยได้ทั้งเรื่องร่างกายและจิตใจ แต่โลกของคนเมืองในตอนนี้ คนเมืองมีภาวะความเครียดในใจค่อนข้างสูง สิ่งหนึ่งที่อยากทำอัญยาขึ้นมาคือ อยากทำให้คนรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่ต้องกลับมาโฟกัสที่ตัวเองและเริ่มรักตัวเองได้แล้ว ตั้งแต่การกินให้ถูก ออกกำลังกายให้พอ แต่ทุกคนลืมเรื่องการนอน ซึ่งการนอนเป็นเรื่องสำคัญ 1 ใน 3 ของชีวิต และควรให้ความสำคัญกับการนอนมากกว่าอย่างอื่นได้แล้วค่ะ
คำว่า “นอนแบบมีคุณภาพ” กับ “คุณภาพของการนอน” หมายถึงอะไร
ต้องยกตัวอย่างให้ฟังเลยว่า บางคนนอนไปแค่ 4 ชั่วโมง แต่เขาตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่น นั่นแปลว่าคุณภาพการนอนของเขาดีมาก บางคนนอนยาวๆ ไป 12 ชั่วโมง แต่ตื่นมาแล้วรู้สึกเพลีย นั่นแปลว่าการนอนเริ่มมีปัญหาแล้ว ซึ่งปัญหาการนอนมันเกิดจากอะไร? ประการแรกเลยคือภาวะทางจิตใจ เช่น บางคนมีความเครียดหรือวิตกกังวลเรื่องต่างๆ ในใจ ถึงขนาดที่บางคนเป็นโรคกลัวเตียงนอน เพราะกลัวที่จะล้มตัวลงนอนด้วยสาเหตุต่าง ๆ นานา เช่นการรู้สึกกลัวว่าคนที่นอนข้าง ๆ หายไป หรือการมีจิตใจที่ฟุ้งซ่านจนทำให้นอนเท่าไรก็ไม่หลับ ประการที่สองคือเรื่องสรีระร่างกาย คนที่มีเหนียงส่วนใหญ่มักนอนกรน ซึ่งการกรนทำให้ช่องคอหย่อน จนทำให้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ สาเหตุเหล่านี้ทำให้เราอยากลุกขึ้นมาทำคลินิกในเรื่องคุณภาพการนอน เพราะเราอยากให้คนมีความสุขกับตัวเองในเวลากลางคืน ไม่ใช่ว่ากลับถึงบ้านแล้วล้มตัวลงนอนไม่ได้
จังหวะที่เราเริ่มทำเรื่องนี้ ทุกอย่างถูกที่ถูกเวลามากเพราะเราทำในช่วงที่เกิดโควิดพอดี ช่วงนั้นผู้คนมีความเครียดสูงมากอยู่แล้ว อัญยาเลยตั้งไข่ได้ค่อนข้างไว ซึ่งช่วงโควิดแรกๆ บางโรงแรมเขาทำ Sleep Test ขึ้นมาในช่วงล็อกดาวน์ เพราะคนอยากออกจากบ้านไปเที่ยว แต่เขาไปไหนไม่ได้ ดังนั้นอย่างน้อยๆ มีกิจกรรมทำบางอย่างมาแทนที่ก็ยังดี คนที่อยากเที่ยวเขาเลยไปทำ Sleep Test กัน แต่จริง ๆ แล้วการไปทำ Sleep Test คือคุณกำลังทำการรักษาเรื่องการนอนอยู่นะ แต่มันกลายเป็นว่าเหมือนเป็นการไปเที่ยวในตัวได้ด้วย นั่นจึงเป็นอีกจุดเริ่มต้นที่ทำให้อุ้มยิ่งอยากทำเรื่องการนอนมากขึ้นอีก เพราะอุ้มเชื่อว่าชีวิตที่ดีต้องเริ่มต้นมาจากการนอน ถ้าการนอนแย่ ชีวิตมันพังหมดเลย
อุ้มยกตัวอย่างง่ายๆ เลย คุณเคยฝันร้ายไหม หลังตื่นจากฝันร้าย เราต้องทุกข์กับฝันนั้นของตัวเองไปทั้งวัน ซึ่งการฝันร้ายมันแปลว่าเรามีบางสิ่งอยู่ในหัวจนเราเก็บไปฝัน และเมื่อตื่นมาแล้วเรายังอินกับความฝันนั้นอยู่ สิ่งนั้นทำให้ชีวิตวันหนึ่งของเราพังลงไปได้เลย แม้ว่าเรื่องเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องจริงและไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะเก็บเอาไว้ในหัวด้วยซ้ำนะ
แต่บางคนใช้ชีวิตปกติแบบไม่ได้เครียดมากและไม่ได้ฝันร้าย ทำไมผลการทำ Sleep Test กลับออกมาไม่ดีอย่างที่คิด
สาเหตุที่ทำให้คุณภาพการนอนผิดปกติมี 2 อย่าง อย่างแรกคือ สรีระร่างกาย เป็นความผิดปกติทางด้านกายภาพที่ควบคุมไม่ได้ บางคนอ้วน บางคนมีเหนียง บางคนคางป้าน สรีระเหล่านี้ทำให้เกิดผนังช่องคอหย่อน ทำให้ผนังคอไปปิดทางเดินหายใจ ซึ่งส่งผลให้เกิดการนอนกรนแล้ว และทำให้กิดภาวะหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับด้วย ในส่วนนี้เรื่องสรีระคือเราแก้ไม่ได้ แต่วิธีแก้คือการผ่าตัด หรือใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) ซึ่งตอนนี้ก็มีการเลเซอร์ยกกระชับเพื่อแก้เรื่องเหล่านี้มาอีกมากมายแล้ว ในเรื่องกายภาพแบบนี้ก็ต้องรักษาตามกายภาพไป
ส่วนประการที่สองคือเรื่องจิตใจ เรามองว่าเรื่องนี้สำคัญและเป็นห่วงเรื่องนี้มากกว่า เพราะไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถกลับบ้านแล้วนอนหลับสบายไปเลยหลังจากที่นั่งคุยกับเราแค่วันนี้วันเดียว เพราะคนเราต่างกัน สิ่งที่กระตุ้นบางอย่างในใจคนเราก็ต่างกันด้วย บางคนชีวิตเขาเพอร์เฟกมากเลย แต่เขากลัวที่จะต้องล้มตัวลงนอนทั้งๆ ที่เขาเองก็หาสาเหตุไม่เจอด้วยซ้ำว่าทำไมถึงรู้สึกกลัว ซึ่งเขาอาจจะกลัวเพราะไม่มีคนนอนข้างๆ อาจจะกลัวเพราะรู้สึกเหงา หรือกลัวเพราะว่ารู้สึกเคว้ง ฉะนั้นเราต้องมานั่งคุยกัน แล้วค่อยๆ แงะปมออกมาทีละประเด็น ซึ่งทุกอย่างต้องใช้เวลา แม้ว่าวิธีแก้ปัญหาการนอนไม่หลับอย่างง่ายที่สุดคือกินยานอนหลับ แต่วิธีนั้นคือการปัญหาระยะสั้น มันไม่ยั่งยืน
อัญยาคลินิกมีบริการแบบไหนให้ลูกค้าบ้าง
อย่างแรกคือ เรามีการทำ Sleep Test เพื่อตรวจดูว่าคุณมีภาวะนอนกรนหรือมีภาวะหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับไหม อย่างที่สองคือ เราอยากดูแลคนที่นอนไม่หลับ การนอนไม่หลับมีหลายสาเหตุ ดังนั้นที่คลินิกของเราก็ต้องมีจิตแพทย์และนักจิตวิทยาร่วมด้วย เราจะไม่แนะนำเรื่องการใช้ยารักษา หากไม่จำเป็นจริงๆ ซึ่งถ้าต้องใช้ เราก็มีวิตามินหรือว่าอาหารเสริมบางตัวที่พอช่วยเขาได้ ซึ่งการดูแลคนที่มาด้วยอาการนอนไม่หลับนั้นยากมาก เพราะปัญหาของแต่ละคนต่างกันเยอะมาก
ตอนนี้เราไม่ได้โฟกัสแค่เรื่องการนอนอย่างเดียวแล้ว เราดูเรื่องของการฟื้นฟูร่างกายทั้งหมดของคนที่นอนไม่หลับด้วย ตั้งแต่ทั้งเรื่องการนอน เรื่องการกายภาพจนไปถึงเรื่องการกิน เป็นบริการแบบใหม่ที่เรากำลังเริ่มคือการทำ Speed Recovery Therapy เป็นบริการที่เหมาะสำหรับคนที่ใช้ชีวิตแบบสุดขีดจริงๆ อย่างนักร้อง หรือศิลปินที่ต้องทัวร์คอนเสิร์ต แล้วเขามีเวลาพักน้อยมากแต่เขาต้องนอน พอตื่นเช้ามาก็ต้องเข้าห้องซ้อมหรือเข้าห้องอัดต่อ ตกเย็นมาก็ต้องไปทัวร์ ซึ่งสุดท้ายแล้วร่างกายเรายังคงต้องการการพักผ่อน แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อหน้าที่มันบังคับ เราเลยอยากมีบริการตรงนี้เข้ามาเพื่อดูแลการนอน การกายภาพให้เขา รวมถึงสภาพจิตใจด้วย ซึ่งบริการนี้เราได้ลองเปิดตัวไปกับคอนเสิร์ต Bodyslam (พูดในใจ The B-Side Concert จัดช่วงเดือนมีนาคม) แล้ว อย่างนักร้องต้องเข้าห้องอัดเพื่อร้องเพลงอกหัก มันดิ่งนะ เพราะว่าเขาต้องพยายามทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดมันออกมา หรือการขึ้นขึ้นคอนเสิร์ตที่เขาต้องแสดงเพลงเศร้าๆ อย่างเพลงงมงาย เพลงความรัก ที่เป็นเพลงเศร้าๆ ทั้งนั้น ขนาดเราเป็นแค่คนฟังเรายังน้ำตาไหลเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ร้องอยู่บนเวที ซึ่งเมื่อจบคอนเสิร์ต พอเขาลงมาจากเวที เราเลยอยากให้มันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของศิลปิน นี่เลยเป็นบริการ ใหม่ของอัญยาที่ออกมาชื่อว่า Anya Speed Recovery Therapy
แล้วอัญยาคลินิกมีวิธีการวินิจฉัยและรักษาอาการของคนนอนไม่หลับได้อย่างไรบ้าง
ส่วนใหญ่คนเดินเข้ามาที่อัญยาคลินิกคืออาการนอนกรนเป็นอันดับแรก เพราะพอเขานอนกรน เขาจะตื่นมาด้วยความรู้สึกไม่สดชื่น พอตกบ่ายก็เริ่มง่วง ถ้าอาการชัดเจนแบบนี้ เราก็บอกได้เลยว่าคุณมีภาวะหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับ ซึ่งการรักษาจะง่ายมากถ้าเข้ากระบวนการคุยกับแพทย์ และใช้เครื่อง CPAP ต้องให้เขาปรับตัวอยู่กับเครื่อง CPAP ให้ได้ เพราะเขาต้องอยู่กับเครื่องนั้นไปตลอด จนกว่าชีวิตประจำวันจะเปลี่ยนได้ เช่น การออกกำลังกายเพื่อให้น้ำหนักลดลง ซึ่งมันยากนะ คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะอยู่กับเครื่อง CPAP เพราะมันง่ายกว่า ถ้าจะนอนหลับก็เสียบปลั๊กแล้วนอนได้เลย แต่ถ้าเขามาด้วยอาการนอนกรนและนอนไม่หลับด้วย ตรวจผล Sleep Test ออกมาก็มีทั้งภาวะหยุดหายใจและการนอนไม่หลับร่วมด้วย เคสนี้ต้องมารักษาอาการแยกกัน ต้องมีการบำบัดร่วมกับนักจิตวิทยาหรือนักจิตบำบัด เพื่อตรวจว่าเขามีอะไรอยู่ในใจ บางคนที่เกิดอาการเหล่านี้อาจเป็นเพราะยาบางตัวที่ไปกดระบบประสาท จนทำให้นอนหลับได้ไม่มีคุณภาพ ซึ่งเราก็ต้องไปหาสาเหตุว่าทำไมเขาต้องกินยาตัวนั้น แต่ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากสภาพจิตใจ แทบจะร้อยเปอร์เซ็นเลย โดยเฉพาะในคนเมืองที่เต็มไปด้วยความเครียด ความวิตกกังวล และความไม่สมหวัง
มีผู้ป่วยจากการนอนเยอะขึ้น ขณะที่คอร์สการรักษามีราคาค่อนข้างสูง อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนยอมมารักษากับอัญยาคลินิก
ต้องเข้าใจก่อนว่าสมัยก่อนการเข้าถึง Sleep Test มีราคาแพงมาก ทั้งการเทสต์และการใช้เครื่อง CPAP แต่พออัญยาคลินิกมาถึงปุ๊บ เราขายในราคาไม่แพง ลูกน้องถามอุ้มว่าทำไม คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ เลยนะ เราจะไม่อยากขายราคาที่เราตั้งเพื่อเอากำไรเท่าไหร่ก็ได้ เพราะนั่นไม่ใช่การทำเพื่อช่วยคนจริงๆ เพราะการเอาแต่กำไรสูงๆ ทำให้บริการมันเข้าถึงยาก คือเราไม่ได้ต้องการรวยวันนี้-พรุ่งนี้ อัญยาไม่ได้เน้นทำธุรกิจตีหัวเข้าบ้าน เพราะอุดมการณ์ของเราคือ เราเกิดมาเพื่อช่วยคน เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเอาเงินจากใคร
ในวันที่ธุรกิจกำลังไปได้สวยแต่กลับมีอุปสรรคเข้ามาในชีวิต คุณก้าวข้ามเหตุการณ์นั้นได้ยังไง
ต้องบอกว่าอัญยาทำบุญมาดีมาก 3 เดือนแรกที่เปิดคลินิกก็มีรีวิวเลย รายได้แตะล้านเพราะทำช่วงโควิดพอดี เพราะฉะนั้นพูดได้เลยว่าจุดเริ่มต้นของอัญยาสวยมาก แต่มันก็มีจุดที่ชะลอลง ตัวเราเองก็ใจพัง มันมีปัญหารอบด้าน ตอนนั้นเรารู้สึกเหนื่อยกับสิ่งที่ทำจังเลย แล้วงานที่เราทำเป็นงานที่จะต้องส่งพลังต่อให้คนอื่นไปอีก ถ้าใจเราพังหรือพลังเราหมด เราส่งต่อพลังให้คนไม่ได้ ซึ่งมันกระทบกับงานแน่นอนเลย
แล้วก็ต้องเล่าว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วไม่มีใครพูดเรื่องคุณภาพการนอนหลับเลย มาวันนี้คนเข้ามาทำตรงนี้กันเพียบ ทุกคนหันมาพูดเรื่องการนอนหมดเลย เราก็เลยเครียดมาก เราถามตัวเองและอัญยาตลอดเลยว่าควรจะทำยังไงดีเพราะตลาดมันกำลังโต ซึ่งอุ้มกล้าพูดเลยว่าอัญยาคลินิกเป็นคนที่จุดประกายในเรื่องคุณภาพการนอน สถานการณ์ในตอนนั้นเราก็นึกถึงคำสอนของรุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยบอกไว้ว่า ตลาดที่มันโตแล้วทุกคนเริ่มลงมาเล่น แปลว่าโอกาสของธุรกิจนั้นมันมี คุณแค่ต้องหาปลาของคุณให้เจอ และจับปลาให้ถูกวิธี นั่นคือสิ่งที่จะทำให้เราปลอดภัย ซึ่งมาจนถึงวันนี้สิ่งที่อัญยาทำคือ เราต้องหาตลาดของตัวเองให้ได้ เพราะเรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่า เราจะพูดเรื่องการนอนกับเรื่องการฟื้นฟูร่างกายแบบไหนบ้าง เราจะพูดเรื่องนี้แล้วเราก็จะพูดอยู่เรื่องเดียวเพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ณ วันนี้เราเลยกล้าพูดได้เลยว่า เราเป็นอันดับต้นๆ ของเรื่องการนอนเลยจริงๆ
แต่ในช่วง ณ เวลาที่เราเหนื่อยมากๆ ก็ยังมีคนที่สร้างจุดเปลี่ยน มีวันหนึ่งที่เราโพสต์ว่า ท้อหนักมาก ก.ไก่ล้านตัว หลังจากโพสต์เสร็จแล้วก็หลับไป เราไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากใคร เพราะปกติเราไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร ไม่เคยขอเงินใครและไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น เรียกได้ว่าเป็นคนที่อีโก้สูงมาก แต่วันนั้นเราท้อถึงขั้นที่ไปสมัครงานเป็นพนักงานบริษัทกับเพื่อน เพื่อนทุกคนก็ใจดีแล้วก็ให้โอกาสกับเรา จนวันหนึ่งมีลูกค้าที่เคยใช้บริการเขาโพสต์ถึงคลินิก หลังจากนั่งอ่านโพสต์ของเขาแล้วเราก็นั่งน้ำตาไหล
เขาพูดว่า พี่อุ้มเป็นธิดาเทพ เป็นคนต่อลมหายใจให้เขา
แล้วเราก็คิดขึ้นมาว่า สิ่งที่เราทำมันมีประโยชน์กับคนมากๆ มันเลยทำให้อุ้มรู้สึกว่า งั้นฉันต้องลุกขึ้นมาฮึดสู้ ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้รู้ตัวเลยว่ายังมีอีกหลายคนที่แอบดูและเป็นกำลังใจให้เราเหมือนกัน ตอนนั้นเลยเกิดคลื่นรีวิวทั้งที่เราไม่ได้ขอและไม่ได้จ้างด้วย ในตอนนั้นเราเลยรู้สึกแล้วว่าอัญยาคลินิก ทำหน้าที่ของเราได้สมบูรณ์ และเราทำงานนี้ด้วยความเข้าอกเข้าใจ ตอนกลางวันที่เราทำงาน เราจะปิดโทรศัพท์เพราะถือว่าเราอยู่กับคนที่คลินิก แต่ก่อนนอนเราจะเปิดโทรศัพท์เลย เพราะเราเชื่อว่าใครที่โทรหาเราในช่วงตอนดึกแบบนี้แปลว่าเขามีปัญหา ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องอะไรก็ตามแต่ โทรมาหาเราได้เลยจริงๆ 24 ชั่วโมง เรารับสายหมดไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเราเองหรือคนไข้ก็ตาม ตรงนี้มันก็เลยทำให้เกิดเป็นปากต่อปาก แล้วอัญยามันก็เริ่มมีคนพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เลย
รู้สึกยังไงกับการที่อัญยาคลินิกทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น จนเรียกว่าเป็น Life Partner ของทุกคนได้
รู้สึกอิ่มใจนะ จริงๆ ที่ผ่านมา เราไม่ใช่คนที่สมหวังในความรักขนาดนั้น เราก็อยากมีแฟนนะ อยากมีคู่ชีวิตที่ดี แต่ตลอดอาชีพการทำงานมาเราไม่เคยรู้สึกว่าเรามีความสุขแบบอิ่มเอมขนาดนี้ การไม่มีแฟนมันเหงาไหม ก็เหงานะ แต่ถ้าเราไม่มีคนไข้เราน่าจะร้องไห้หรือพังหนักกว่านี้อีก เรารู้สึกว่าเราถูกพระเจ้าส่งมาให้มาเป็นผู้เยียวยา แล้วเราก็จะเป็นผู้เยียวยาให้กับทุกคน
มีครั้งหนึ่งที่เราได้รับรางวัลจากงานของธนาคารแห่งหนึ่ง วันที่เดินทางไปถ่ายรูปที่นั่น ในใจกลับรู้สึกโหวงเพราะเราไปคนเดียว เรารับรางวัลคนเดียวและกลับคนเดียว เราก็ดีใจนะที่มีคนจดจำเราได้ แต่การรับรางวัลมันไม่ได้เติมเต็มชีวิตเรา แต่อุ้มกลับมีความสุขกับการที่อยู่คลินิกตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอาทิตย์ เพราะคนไข้ทุกคนที่เดินเข้าคลินิก คือเขาต้องการเจอหน้าเรา อุ้มไม่ได้เป็นคนขายเครื่องหรือทดลองเครื่องรักษาให้นะ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าคนไข้เดินเข้ามา ก็เหมือนคนได้พลังจากเรากลับไปด้วย เพราะฉะนั้นเราก็เลยมองว่า อยากเสียสละความสุขส่วนตัวบางอย่างเพื่อคนอื่นดีกว่า
ถ้าวันนี้ไม่ได้ทำอัญยาคลินิก ตอนนี้อุ้มจะทำอะไรอยู่
เราอยากเป็นครูอนุบาล หรืออยากจะทำมูลนิธิ สุดท้ายปลายทางของชีวิตและความฝันอันสูงสุดของเราคืออยากทำมูลนิธิ อยากเป็นแบบปวีณา หงสกุล เพราะเราเคยเป็นเนื้องอกในสมองตอนอายุ 27 ปี เคยผ่าตัดด้วย ซึ่งเป็นเนื้องอกตรงจุดสำคัญคือก้านสมอง แต่ดีที่สุดท้ายไม่ได้เป็นมะเร็ง เพราะครอบครัวฝั่งแม่เราเป็นมะเร็งเสียชีวิตกันทุกคน ซึ่งอุ้มเองก็อาจจะตายเพราะมะเร็งเมื่อไหร่ก็ได้เหมือนกัน เราเลยรู้สึกว่าพระเจ้าสร้างเรามาเพื่อให้ช่วยเหลือคนอื่น เราเลยอยากจะทำอะไรเพื่อคนอื่นถ้าวันหนึ่งเรารวยมากๆ เราก็อยากทำมูลนิธิ เพื่อให้โอกาสคนอื่นที่เขาไม่ได้มีโอกาสแบบเรา อยากทำมูลนิธิชื่อโอบอุ้ม เพื่อให้คนมีฝันได้กล้าที่จะฝันในมูลนิธิเรา มูลนิธิที่เราอยากทำ เราไม่ได้จะให้เงินเข้าไปใช้หรอก แต่เราจะสอนให้คุณจับปลา สอนให้เขาพร้อมเพื่อเอาสิ่งเหล่านี้ไปดำเนินชีวิตต่อ
ทุกช่วงจังหวะชีวิตที่ผ่านมา อัญยาคลินิกมอบบทเรียนอะไรให้อุ้มบ้าง
มีวันหนึ่งเราเขียนโพสต์ยาวมากเกี่ยวกับบทเรียนในชีวิตของเราและอัญยา ใจความหลักของมันคือคำว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คำนี้เป็นคำที่เรียบง่ายที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์เลยนะ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่เราเคยรักมากที่สุด เขาก็ต้องกลายเป็นคนอื่นในสักวันหนึ่ง ในวันที่เราคิดว่า เราอาจจะหวังพึ่งพาเขาได้แต่ยังไงเขาก็เป็นคนอื่น หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเราเอง ที่วันหนึ่งพวกเขาก็ต้องตายจากเราไป อัญยาเลยสอนให้อุ้มรู้จริงๆ ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราต้องยืนให้ได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ไม่ถนัดก็อย่าทำ แล้วเมื่อวันหนึ่งเราแข็งแรงมากพอ สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะทำให้ได้เลย คือการเอาความแข็งแรงนั้นไปช่วยให้คนอื่น แม้ทุกวันนี้ยังไม่ถึงจุดที่อัญยาจะแข็งแรงได้เต็มที่ แต่เราเชื่อว่าด้วยเจตนาที่ดีที่ทำ ทุกอย่างจะมีวันไปต่อ ในวันที่อุ้มแย่ที่สุด เชื่อไหมว่าเราไม่เคยถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวเลย ในวันที่พี่พังที่สุดก็มีคนโผล่เข้ามาหาเราโดยที่เราก็ไม่ได้คาดหวังมาก่อนเลยจริงๆ