In Partnership with Nok Air

            “ไปพม่าเหรอ ไม่กลัวอันตรายเหรอ”

            นี่คือคำพูดแรกที่ผมบอกกับคนใกล้ตัวว่า ผมจะเดินทางไปยังประเทศเมียนมาร์ หลังจากเกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง จากการเข้ายึดอำนาจของกองทัพ ที่ส่งผลทำให้มีภาพการชุมนุมประท้วง การใช้อาวุธเข้าโจมตีพลเรือน และความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย

            แต่ความกระหายใคร่รู้ของผมกับการที่อยากไปดูชีวิตของผู้คนชาวเมียนมาร์หลังเกิดการยึดอำนาจกับตาตัวเอง ผลักดันให้ผมรับคำชวนจากทางสายการบินนกแอร์ที่เชิญผมไปเยือนนครย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศ

            ก้าวแรกที่เหยียบย่าง ณ แผ่นดินประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งที่สัมผัสได้เลยคือ ความเงียบเหงาของท่าอากาศยานมิงกาลาดง ที่ก่อนหน้านี้เคยคลาคล่ำไปด้วยนักเดินทาง และนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ กลับมีผู้เดินทางจากเที่ยวบินของผมเพียงเที่ยวบินเดียวในเวลานั้น ร้านค้าต่างๆ ปิดให้บริการ เคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเปิดเพียงไม่กี่ช่อง หากคาดคะเนด้วยสายตาแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในท่าอากาศยาน ยังมีมากกว่าจำนวนนักเดินทางเสียด้วยซ้ำ

            แต่เมื่อผ่านพิธีศุลกากร และเดินทางออกจากสนามบินเพื่อเข้าสู่ตัวเมือง บรรยากาศที่เงียบเหงานั้นกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ท้องถนนในย่างกุ้งเต็มไปด้วยรถรามากมาย ผู้คนเดินทางใช้ชีวิตปกติ ร้านรวงมากมายยังคงเปิดกิจการ และวิถีชีวิตริมสองฝั่งของถนนจากผู้คนที่แต่งตัวกันหลากสีสันยังคงดำเนินไปตามวัฏจักร

            แต่การมองเห็นเพียงด้วยตาเนื้อของผมมันอาจจะบอกได้ไม่ทั้งหมดว่านั่นคือความปกติสุขอย่างแท้จริง เพราะคงต้องได้พูดคุยกับคนท้องถิ่นที่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ หรือแม้แต่คนไทยที่เข้ามาทำธุรกิจในย่างกุ้ง เพื่อให้รู้ว่าชีวิตของชาวย่างกุ้งนั้นยังคงสุขสบายดีจริงหรือไม่?

            ผมเข้าพัก ณ โรงแรมชาเทรียม รอยัล เลค ย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเชนโรงแรมระดับ 5 ดาวของคนไทยที่เปิดธุรกิจในย่างกุ้งมายาวนาน และได้มีโอกาสจับเข่าพูดคุยกับทางผู้บริหารของโรงแรมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมาร์เมื่อช่วงที่ผ่านมา

Ms. May Myat Mon Win
General Manager of Chatrium Yangon

            “เมียนมาร์ของเราเป็นประเทศที่สวยงาม และเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ธรรมชาติ และเรื่องราวมากมายที่ดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาเยือน แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น ประกอบกับภาพความรุนแรงในเมียนมาร์จากการยึดอำนาจของกองทัพ ทำให้ผู้คนไม่อาจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามเดิม มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมากในช่วงนั้น”

            Ms. May Myat Mon Win, General Manager of Chatrium Yangon เปิดใจคุยกับผมหลังจากงานแถลงข่าว เธอบอกเพิ่มเติมว่า ในตอนนี้ย่างกุ้งสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ไม่มีภาพความรุนแรงอย่างที่สื่อต่างๆ มีการนำเสนอ ผู้คนใช้ชีวิตได้เกือบปกติ อาจมีเพียงการเคอร์ฟิวในช่วงเวลากลางคืนระหว่าง 11.00 – 04.00 น. และตามสถานที่สำคัญ สถานที่ราชการ หรือจุดที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดความไม่สงบบางแห่งที่มีเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจ แต่พื้นที่อื่นๆ ในย่างกุ้งผู้คนยังคงใช้ชีวิตได้ตามวิถีของตัวเอง ไม่มีทหารเอาปีนมาจี้หรือบังคับใดๆ

            “พวกเราอยากให้ไทยหรือแม้แต่ชาวต่างชาติมองเห็นถึงความเป็นจริงในเมียนมาร์ ว่าไม่ใช่ทุกพื้นที่จะเป็นอย่างที่มีการนำเสนอข่าว โดยเนื้อแท้คนพม่าเป็นคนจิตใจดี เราศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า การมาท่องเที่ยวในเมียนมาร์ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล พวกเรายินดีต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวทุกคนในฐานะเจ้าบ้านเป็นอย่างดี”

            ในความรู้สึกของผมที่เป็นชาวต่างชาติในดินแดนที่กำลังมีความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงมาก่อน ย่อมมีคำถามอย่างแน่นอน เพราะแม้ว่าผู้ประกอบการเจ้าบ้านจะให้ความมั่นใจว่า “ปลอดภัย” ก็ตาม แต่ด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่ต้องเห็นเจ้าหน้าที่ถือปีนยาวเท่าแขนประจำการในจุดต่างๆ มันก็คงมีแว๊บขึ้นมาในความคิดบ้างล่ะว่า ถ้าปลอดภัยแล้วทำไมต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำการอย่างเข้มงวดแบบนั้น เพราะคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่ามันส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างแน่นอน คงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนสบายใจนักที่จู่ๆ มีทหารหรือตำรวจขอขึ้นมาตรวจบนรถบัสนำเที่ยวโดยแบกปืนขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วย

Mr. Myo Thwin
Chairman Myanmar Tourism Marketing

            “เรากำลังพยายามเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์นี้ เพื่อสร้างการรับรู้ใหม่ เราทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาลและสะท้อนปัญหานี้เพื่อให้เห็นว่าหากเราจะเปิดการท่องเที่ยวแล้วให้ผู้ที่เดินทางเข้ามามั่นใจว่า การท่องเที่ยวในเมียนมาร์นั้นปลอดภัย ไม่มีความรู้สึกถูกคุกคาม พร้อมกับเรียกร้องไปยังรัฐบาลของเราว่า จะต้องมีการปรับความเข้มงวดต่างๆ ลงเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น”

            Mr. Myo Thwin Chairman Myanmar Tourism Marketing ยังมองว่าตลาดที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยวเมียนมาร์คือ นักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งมีสัดส่วนมากเป็นชาติอันดับที่ 2 รองจากนักท่องเที่ยวจีน และการท่องเที่ยวเชิงศาสนา การมาไหว้พระขอพร และทำบุญ ในวัดสำคัญที่มีชื่อเสียงทั้งเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินแขวน เทพทันใจ และโบราณสถานต่างๆ ยังคงเป็นที่ต้องการของสายบุญสายมูเตลูชาวไทย

            “ไม่เพียงแค่ชาวไทยเดินทางมาเมียนมาร์ได้สบายใจมากขึ้นเท่านั้น ยังส่งเสริมให้ชาวเมียนมาร์เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยด้วย ซึ่งจะได้ประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย”

            การที่สายการบินนกแอร์ชวนผมมายังเมียนมาร์ในครั้งนี้ จุดประสงก็คือการเตรียมพร้อมเพื่อเพิ่มเที่ยวบิน และขยายเส้นทางบินไปยังจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวในต่างประเทศมากขึ้น โดยย่างกุ้งเป็นปลายทางที่ได้รับความนิยม ประกอบกับการยกเลิกการขอวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าสู่เมียนมาร์เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้นกแอร์เพิ่มเที่ยวบินไปยังย่างกุ้งถึง 9 เที่ยวต่อสัปดาห์ เพื่อให้คนไทยที่จะเดินทางไปเมียนมาร์ได้สะดวกมากขึ้น

ธีรพล โชติชนาภิบาล
ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บมจ. สายการบินนกแอร์

            “เมียนมาร์ยังคงเป็นดินแดนที่คนไทยยังอยากเดินทางเพื่อมาท่องเที่ยวเสมอ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะเจอกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจทำให้แผนการเดินทางมายังประเทศนี้ต้องหยุดไป แต่ด้วยการท่องเที่ยวของเมียนมาร์ที่ต้องการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปได้ง่าย และมีช่วงเวลาให้เลือกที่หลากหลาย ฉะนั้นนกแอร์จึงขยายเที่ยวบินเพิ่มเติมเพื่อให้นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ หรือแม้แต่ประชาชนชาวไทย และเมียนมาร์ได้เดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น” ธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน)

            แน่นอนว่าภาพที่ผมเห็นในย่างกุ้งนั้นชีวิตค่อนข้างดำเนินไปอย่างปกติ แต่ถ้าหากเดินทางระหว่างเมือง บนเส้นทางที่ออกจากย่างกุ้ง จะพบว่ายังคงมีด่านตรวจ ด่านความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจตั้งอยู่ตลอดทาง จากย่างกุ้งถึงเมืองพะโค หรือหงศาวดี ระยะทางเพียง 80 กิโลเมตร แต่มีด่านความมั่นคงตั้งตลอดทางถึง 7 ด่าน บางด่านก็ตรวจไม่เข้มงวด บางด่านก็เข้มงวดถึงขั้นขึ้นมาตรวจบนรถ เพื่อขอดูพาสปอร์ต แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องให้ลุ้นระทึกอะไร เพราะทางไกด์ก็มีการแจ้งเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไร อะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำ

            ในมุมของคนทำงานในสายท่องเที่ยว ไกด์นำทัวร์ของผมในครั้งนี้ซึ่งเขาพูดไทย และเข้าใจภาษาไทยได้แทบจะ 100% ได้มีช่วงพักระหว่างที่ปล่อยให้ผู้ร่วมทริปไปไหว้พระระหว่างอยู่ที่เจดีย์ชเวดากอง ก็เลยสบโอกาสเข้าไปถามความรู้สึกของคนเมียนมาร์ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่ใช่ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ หรือคนที่มีอำนาจในสังคม ถึงความรู้สึกเกี่ยวการที่รัฐบาลพลเรือนต้องถูกรัฐประหาร และมุมมองทางการเมืองของคนเมียนมาร์

            “นี่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ 2 ที่ผมได้รับ หลังจากที่ไม่ได้ทำงานเลยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มันยากลำบากมาก เพราะไม่อาจรู้อนาคตได้เลยว่าสถานการณ์ในพม่าจะกลับมาเป็นปกติเมื่อไหร่”

ไกด์นำเที่ยวชาวเมียนมาร์

            เขาพูดพลางมองไปที่ผู้คนที่มากราบไหว้เจดีย์ชเวดากองในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันพระของชาวเมียนมาร์

            “คุณก็รู้ใช้ไหมว่า คนพม่าแบบเราในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์แม้จะวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ รัฐบาล เพราะพวกเขาปิดกั้นช่องทางโซเชียลมีเดีย และถ้าหากจะมุด VPN เพื่อเล่นโซเชียลก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากรัฐบาลรู้ว่าใครใช้ VPN หรือเพียงแค่มีแอปฯ นี้อยู่ในมือถือก็ถูกจักกุมได้เลย”

            ผมถามว่าเขายังคงคาดหวังกับการเลือกตั้งหรือไม่ ยังรอที่จะได้เลือกตั้งหรือเปล่า?

            “ต่อให้จะมีการเลือกตั้ง ก็คงเหมือนเดิม พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ ก็ถูกทหารพม่าจัดการไปหมดแล้ว การเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นซึ่งจะได้จัดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็คงเป็นคนที่มีการวางตัว เป็นคนของพวกเขาทั้งนั้น”

            “ผมก็แค่หวังว่าการใช้ชีวิต การทำมาหากินจะยังคงทำได้เหมือนเดิม เพราะชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าใครจะคุมประเทศก็ตาม”

            ในบทสรุปของเรื่องราวนี้ ผมคงตอบคำถามที่ว่า เมียนมาร์หลังรัฐประหารนั้น ท่องเที่ยวได้หรือไม่ คำตอบก็คงบอว่า “ได้แหละ” แต่จะสบายใจแบบ 100 เปอร์เซนต์หรือไม่ ก็คงต้องใช้ความรู้สึกของแต่ละคนที่เป็นปัจเจกพิจารณา

            แต่สิ่งที่ผมได้เห็นกับตาในเมียนมาร์นั้นก็คงมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วเช่นกัน และคงบอกได้เพียงว่าไม่ว่าสุดท้ายแล้วใครจะปกครองประเทศ ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เลี้ยงชีวิต ทำมาหากินได้

            ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเอง

Contributors

Contributors

10 ปีในอาชีพสื่อมวลชน ทั้งเบื้องหน้าและภาคสนาม วิ่งข่าวมาแทบทุกสาย แต่ลงเอยด้วยความชอบสายเศรษฐกิจ และต่างประเทศ เพราะโลกของข่าวสารไม่ได้อยู่ไกลเกินปลายนิ้วมือ

ช่างภาพอิสระ ... อิสระจากความมั่นคงทางรายได้