ในโลกที่ดนตรีคือภาษาสากลของความรู้สึก มีศิลปินหลายคนที่เลือกใช้เสียงเพลงเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องชีวิต หนึ่งในนั้นคือ ธู จารุศร จาก Wicked Light ผู้ที่เติบโตมากับทั้งกีตาร์และเปียโน ก่อนจะย้ายไปใช้ชีวิตในอังกฤษ ซึ่งทำให้เขาได้เปิดหูเปิดตากับโลกดนตรีสากล และเติมเชื้อไฟความฝันในการเป็นศิลปินอย่างจริงจัง
แม้เส้นทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ประสบการณ์วัยเด็กในต่างแดนและความทรงจำหลากหลายรสชาติ กลับหลอมรวมเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เขาอยากเล่าผ่านเสียงเพลง จากการทดลองแนวทางใหม่ ๆ ไม่ว่าจะป็อป อินดี ร็อก หรือโฟล์ก ทุกเพลงล้วนเป็นเหมือนภาพสะท้อนของอารมณ์และความคิดในแต่ละช่วงชีวิต โดยเฉพาะผลงานล่าสุดอย่าง ‘ยางลบ’ ที่ไม่เพียงเล่าถึงความทรงจำที่อยากลบ แต่กลับทำให้ผู้ฟังเข้าใจการเติบโตและการอยู่กับอดีตอย่างกลมกลืน
ในบทสนทนานี้ ธูเล่าถึงจุดเริ่มต้น แรงบันดาลใจ กระบวนการทำเพลง รวมไปถึงความหมายของดนตรีที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจในชีวิต เขาพร้อมเปิดใจถึงความท้าทายในการทำเพลงไทยครั้งแรก การจัดการกับคนที่ไม่เป็นพลังบวก และความหวังที่อยากส่งต่อให้ผู้ฟังท่ามกลางความไม่แน่นอนของยุคสมัย

จุดเริ่มต้นในการเล่นดนตรี
ผมเริ่มจากการเล่นกีตาร์ แล้วก็ถูกพ่อแม่บังคับให้เรียนเปียโนตั้งแต่ 7–8 ขวบ แต่ตอนนั้นยังไม่มีสมาธิเท่าไหร่ครับ พออายุ 11 โดนส่งไปอยู่อังกฤษ ทำให้ได้ฟังเพลงสากล เข้าใจความหมายมากขึ้น เลยยิ่งอยากเรียนรู้ แล้วก็หันมาเล่นกีตาร์จริงจังตั้งแต่นั้น
ชีวิตวัยเด็กที่อังกฤษเป็นยังไงบ้าง
ผมไม่ได้อยู่ในเมืองมากนัก แต่เวลาได้เข้าเมืองมันวิเศษมาก บรรยากาศคล้าย ๆ โรงเรียนใน Harry Potter มีเพื่อนเยอะ มีกิจกรรมสนุก ๆ ได้เรียนภาษาและวัฒนธรรมใหม่ ๆ
ถ้าได้เรียนที่ฮอกวอตส์ คิดว่าจะอยู่บ้านไหน
น่าจะ Gryffindor ครับ เคยเป็นกัปตันของบ้านด้วย ก็เลยมีความทรงจำดี ๆ เก็บไว้เยอะเลย
ที่มาของชื่อ Wicked Light
ชื่อวงก็มาแบบตามน้ำเลยครับ ตอนแรกหาชื่อที่เหมาะกับเพลงกับแนวทางค่อนข้างยาก จนมีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำมา แล้วรู้สึกว่ามันใช่ ตรงกับความคิด ก็เลยเลือกชื่อนี้โดยไม่ลังเล
กระบวนการทำเพลงเริ่มจากตรงไหนก่อน
แล้วแต่จริง ๆ ครับ บางทีเมโลดีมาก่อน บางทีคำมาก่อน หรืออาจเริ่มจากเครื่องดนตรี อย่างเพลงล่าสุด ‘ยางลบ’ ผมเริ่มจากเบส ซึ่งไม่ค่อยมีใครใช้เป็นเครื่องดนตรีตั้งต้น แต่สำหรับผมมันเป็นความท้าทายที่น่าสนุก
นิยามแนวเพลงของตัวเองยังไง
ผมไม่อยากจำกัดตัวเองว่าอยู่แนวไหน เพราะชีวิตมีหลายอารมณ์ เพลงก็เหมือนกัน วันหนึ่งอาจจะเป็นป๊อป อีกวันอาจจะอินดี ร็อก หรือโฟล์กก็ได้ เพลงสำหรับผมคือความรู้สึก ไม่ใช่แค่แนวเพลงครับ
ที่มาและแรงบันดาลใจของเพลง ‘ยางลบ’
เพลงนี้พูดถึงความทรงจำที่บางครั้งก็ไม่ดี อยากลบออกไป แต่ลบไม่ได้ สุดท้ายมันกลับกลายเป็นบทเรียนที่สอนเรา ผมเคยคิดเล่น ๆ ว่าอยากมียางลบพิเศษ แต่จริง ๆ แล้วการอยู่กับความทรงจำเหล่านั้นให้ได้ต่างหาก ที่ทำให้เราเติบโตและมีชีวิตที่ดีขึ้น


วิธีรับมือกับคน Toxic
ผมว่ามนุษย์ทุกคนต้องเจอคนแบบนี้ครับ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่บางคนเข้ามาแล้วอยู่กับเราไม่ได้ เราอาจอยากลบเขาออกไป แต่สุดท้ายมันก็ยังมีคุณค่าอยู่ เพราะทำให้เราเรียนรู้และระวังตัวมากขึ้น ชีวิตต้องเดินต่อ แม้จะมีอุปสรรคหรือเจอคนที่ทำให้เราเสียใจบ้าง แต่ก็สอนให้เราเติบโตและระวังคนรอบตัวให้ดีขึ้น
ปกติทำเพลงอังกฤษมาตลอด ทำไมถึงเลือกทำเพลงภาษาไทยในรอบนี้
เพราะมันเป็นการท้าทายตัวเองครับ ตอนแรกคิดว่าเพลงไทยเขียนยากกว่าภาษาอังกฤษ เพราะคำและศัพท์มันจำกัดมากกว่า แต่ผมก็อยากลองถ่ายทอดอารมณ์ตัวเองในภาษาแม่บ้าง และก็ภูมิใจมากที่ได้ทำออกมา โดยมีพี่เล็ก (ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์) ที่คอยกระตุ้นให้ลองทำ มันเลยกลายเป็นผลงานที่ผมภูมิใจที่สุด
โมเมนต์ที่ชอบที่สุดในการทำเพลง
ผมมีน้องคนหนึ่งชื่อ Zeedox เขาเป็นคนทำ MV ให้เพลง ‘ยางลบ’ ผมดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับเขา เพราะน้องมีพรสวรรค์และจินตนาการสูง เวลาได้ทำเพลงกับคนที่คลิกกัน มันเปิดโลกมาก ๆ ผมชอบการได้แชร์พลังงานกับนักดนตรีที่อินไปด้วยกัน ฟังงานของเขาแล้วเราอินสไปร์กลับมา เป็นความสุขที่ช่วยส่งต่อกันไปมา
อยากส่งสารอะไรไปถึงผู้ฟังบ้าง
ก็อยากให้สู้ต่อครับ ช่วงนี้หลายคนเจอปัญหา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องค่าใช้จ่าย หรือความไม่แน่นอนต่าง ๆ ผมเข้าใจเลยว่าแต่ละคนกำลังดิ้นรน แต่ก็อยากฝากเพลง ‘ยางลบ’ ไว้ให้ลองฟัง บางอย่างเราอาจลบออกไม่ได้ แต่ถ้าอยู่กับมันให้ได้ มันก็อาจจะกลายเป็นพลังที่ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น
นอกจากดนตรีแล้ว มีงานอดิเรกอะไรที่ชอบทำบ้าง
ผมชอบทำอาหารมากครับ พอโตที่อังกฤษก็เลยได้ลองชิมและเรียนรู้อาหารหลายแบบ โชคดีที่มีโอกาสเที่ยวแทบทั่วโลก ทำให้เปิดมุมมองเรื่องรสชาติการกิน เลยคิดจะทำช่อง IG หรือ YouTube เกี่ยวกับอาหาร แต่ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีเวลา เพราะงานเพลงค่อนข้างกินเวลามาก นอกจากทำอาหารแล้วก็ชอบท่องเที่ยว เล่นสโนว์บอร์ด ใช้ชีวิตแบบนักบุกเบิก แล้วก็ได้เพื่อนใหม่จากการสื่อสารกับคนต่างชาติเพราะภาษาอังกฤษช่วยได้เยอะ
บาลานซ์ชีวิตกับการทำงานยังไง
ผมให้เวลากับการทำเพลงเป็นหลัก แต่ก็ยอมรับว่าศิลปินยุคนี้ต้องหางานเสริมเพื่อสร้างรายได้ เพราะการอยู่กับดนตรีอย่างเดียวมันไม่ง่าย นอกจากวงใหญ่ ๆ ที่พอทำได้ ส่วนตัวผมเองก็ยังบริหารเวลาไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ก็พยายามหาสมดุลระหว่างความฝันกับชีวิตจริงอยู่ตลอด

มองตัวเองในอีก 2–3 ปีข้างหน้ายังไง
ก็ยังมุ่งมั่นทำเพลงต่อไปครับ ตอนนี้มีเพลงเก็บไว้ในคลังประมาณ 4–5 อัลบั้มที่ยังไม่ได้ปล่อย เรื่องเงินกับความสุขมันเป็นสิ่งที่ต้องชั่งใจ แต่สุดท้ายผมรักสิ่งที่ทำ และอยากลุยต่อไปเรื่อย ๆ
ขอ Starter Pack 3 เพลง สำหรับคนที่อยากฟัง Wicked Lights
ตอนนี้อยากฝากให้ลองฟังเพลง “ยางลบ” และ “กอด” ครับ เพลงกอดอาจจะฟังเศร้า แต่จริง ๆ แล้วเป็นเพลงที่ให้ความหวังเยอะมาก ผมอยากทำเพลงที่ฟังแล้วอาจไม่ติดหูทันที แต่เมื่อฟังซ้ำ ๆ จะซึมเข้าไปในใจ คล้าย ๆ ศิลปินที่ผมชอบซึ่งเพลงของเขามักจะเปิดประสบการณ์ใหม่เมื่อฟังหลายครั้ง
ศิลปินในดวงใจ
ถ้าเป็นศิลปินไทยก็คงเป็นพี่เฟนเดอร์-ธนพล จูมคำมูล จากวง Solitude Is Bliss ครับ รู้จักกันทางโซเชียล เขาเป็นคนน่ารักและมีความเชื่อมั่นในงานเพลงของตัวเองสูงมาก ฟังแล้วได้แรงบันดาลใจเยอะ ส่วนศิลปินต่างชาติที่ผมประทับใจคือ Elliott Smith แม้เขาจะจากไปแล้ว แต่เพลงของเขาลึกซึ้งและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เป็นคนที่เล่นกีตาร์โฟล์กได้เก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ
ดนตรีมีอิทธิพลกับชีวิตยังไง
สำหรับผม ดนตรีก็คือชีวิตเลยครับ ถึงจะไม่มีใครอยู่ด้วยก็ไม่เป็นไร แค่มีเพลงก็พอแล้ว ผมเลือกใช้ชีวิตอยู่กับมัน เสียสละหลายอย่างแม้กระทั่งเรื่องความรักหรือสุขภาพ แต่ดนตรีก็เป็นเพื่อนที่อยู่กับผมมาตลอด
อยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่ทำเพลงบ้างไหม
ไม่ต้องบอกอะไรมากหรอกครับ เพราะเด็กรุ่นใหม่เก่งกันอยู่แล้ว แค่ให้กำลังใจ เพราะสมัยนี้เศรษฐกิจไม่ง่าย ทุกคนต้องดิ้นรนเยอะกว่ารุ่นผม อยากบอกให้สู้ต่อไป ฟังคำเตือนบ้างแต่ก็อย่าท้อ
สุดท้ายอยากให้ฝากผลงานหน่อย
อยากฝากเพลงไทยที่เพิ่งทำออกมาในช่วง 2–3 เดือนนี้ มี ‘นักบินอวกาศ’ ‘กอด’ และ ‘ยางลบ’ ครับ เพลงเหล่านี้มีอารมณ์ที่แตกต่างกัน แต่หวังว่าจะทำให้คนฟังอินได้ในแบบของตัวเอง ถึงจะเป็นเพลงอินดี้ที่อาจไม่ติดหูทันที แต่ถ้าให้โอกาส มันอาจจะมีคุณค่ามากกว่าที่คิดก็ได้
สตรีมมิ่งได้แล้วที่นี่ https://linktr.ee/wickedlights

Contributors
อาร์ตไดผู้รักงานออกแบบที่เขียนคอนเทนต์ได้นิดหน่อย ชอบเล่าตัวเลขและข้อมูลด้วยภาพ ชอบกินเส้นมากกว่าข้าว ชอบดูหนัง ชอบแมว และชอบเธอ