Trumsey วงดนตรีวัยรุ่นจากค่าย Wayfer Records ที่ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนรู้จักพวกเขาจากเพลงแรกอย่าง ‘จีบเธอไม่ได้ (ก็เลยจีบแม่เธอแทน)’ กับเนื้อหาทั้งขำและคมที่แทรกอยู่ในทำนองสดใสขี้เล่น จนทำให้เพลงดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน และพา Trumsey ก้าวเข้าสู่สายตาคนฟังอย่างเต็มตัว
ล่าสุดทั้งสามหนุ่มจอมขี้เล่นอย่าง คิว-ณัฐชล มณีรัตนรุ่งเรือง (คีย์บอร์ด), มิกกี้-กฤตภัค เอื้อวิกรานต์กุล (กีตาร์และเบส) และ คิม-ธัญศิษฐ์ เบญจธัญจวัฒน์ (ร้องนำ) กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลใหม่ ‘เธอสวยเกินมนุษย์มนา’ ที่ยังคงเอกลักษณ์ของ Trumsey ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งการตั้งชื่อเพลงไม่ซ้ำใคร การเล่นคำอย่างมีชั้นเชิง และเมโลดี้ที่ฟังแล้วติดหูไม่แพ้เพลงก่อนหน้า แถมยังมีการร่วมงานกับเพื่อนศิลปินอย่าง Gagagoesbackhome ที่มาเพิ่มสีสันให้เพลงนี้ยิ่งน่าหลงรักเข้าไปใหญ่
แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ ทั้งสามคนไม่ได้มาเล่นๆ พวกเขาผ่านทั้งการรวมวง ฟอร์มทีม ฝึกฝน และล้มลุกกับความฝันมาตั้งแต่มัธยมฯ จนถึงวันนี้ที่ได้เป็นศิลปินเต็มตัว มารู้จักเบื้องหลังที่จริงจังของวงดนตรีขี้เล่นวงนี้ให้มากขึ้น ผ่านบทสัมภาษณ์ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ เสียงหัวเราะ และแรงบันดาลใจจาก Trumsey กันได้เลย

จุดเริ่มต้นของการเล่นดนตรี
คิว: คิวเริ่มจากการเรียนเปียโน เพราะเหมือนเด็กทั่วไปที่พ่อแม่ส่งไปเรียนเปียโน ตอนนั้นก็รู้สึกสนุก แต่ไม่ได้ enjoy เท่าไหร่เพราะเราถูกบังคับให้เรียน classic แบบเด็กทั่วไปเรียน สุดท้ายเลยฝึกเองไปเรื่อยๆ ดูจาก Youtube ฝึกคีย์บอร์ด มาฝึกกีตาร์ จนมาทำเพลงครับ
คิม: ผมก็โดนที่บ้านให้เรียนเปียโนเหมือนพี่อิ้กเลยครับ ที่บ้านอยากให้ปูทฤษฎีดนตรีไว้ก่อน หลังจากนั้นพอที่บ้านเห็นว่าผมร้อวเพลงได้เลยให้เรียนร้องเพลง ซึ่งผมก็ชื่นชอบ และที่โรงเรียนก็เห็นความสามารถของผม เลยให้ผมไปประกวด จึงเป็นจุดเริ่มต้นของผม
มิกกี้: ปกติเวลาผมอยากเล่นกีตาร์ผมก็แค่ซ้อมแล้วก็เล่น ไม่ได้มี Background เหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้โดนบังคับ พอผมอยากเล่น แม่บอกก็เล่นดิ แค่นั้นเลย ที่บ้าน Support ครับ
ทั้งสามคนมารวมตัวกันฟอร์มวงได้ยังไง เป็นเพื่อนกันมาก่อนหรือป่าว
มิกกี้:ต้องเท้าความมาก่อนว่าผมเป็นเพื่อนกับพี่คิวแล้วก็เป็นเพื่อนกับคิมมาก่อน แต่ตอนแรกสองคนนี้ไม่ค่อยได้คุยกัน ไม่ได้รู้จักกัน แล้วช่วงนั้นเราก็มีวงโรงเรียน ตอนแรกวงโรงเรียนมีแค่ผม พี่คิวและพวกรุ่นพี่ เล่นวงโรงเรียนไปแข่งงานต่างๆ แล้วมีวันหนึ่งที่สมาชิกในวงเริ่มออก ผมที่เป็นเพื่อนกับคิม เล่นเกมด้วยกันทุกวัน ก็รู้ว่าเขาพอเล่นได้ ร้องเพลงเก่ง Entertain คนดูได้ ต้องบอกด้วยว่าคิมเป็นนักร้องวงผมที่ไม่ใช่วงในโรงเรียน แต่เป็นวงชั้น ก็เลยรู้ว่ามันก็เก่งเหมือนกัน เลยจับมันมาอยู่ด้วยกันเลย พอผ่านไปแปปหนึ่ง ไปแข่งนั้นนี่ พวกรุ่นพี่เขาเลยต้องเตรียมเข้ามหาลัย เลยเริ่มหมดไฟ ขอออกดีกว่า เลยเหลือกัน 3 คน ตอนนั้นหมดความหวังแล้ว แต่เรายังพยายามอยู่ในวงการดนตรี เราก็เลยลองทำเพลงนี้แล้วกัน
คิว: จริงๆ เราเคยทำเพลงกันมาสักพักแล้ว คิวเคยทำเพลงมาตั้งแต่ช่วงม.1 ตอนนั้นคิวก็ยังขาดมือกีตาร์กับมือเบส มิกกี้เลยมาช่วยเติมเต็มใน part นั้นได้ หลังจากที่เราทำวงแข่งและรุ่นพี่ออก ตอนนั้นคิวก็มีเพลงที่แต่งไว้ มันก็คือเพลง จีบเธอไม่ได้ จีบแม่เธอแทน ตอนนั้นคิวก็แต่งไว้เล่นๆ เป็นเดโมไว้ เลยชวนคิวมาร้อง จนมาถึงวันนี้ครับ
ที่มาของชื่อ Trumsey
คิม: คำว่า Trumsey มันมาจากคำว่า “ทำสิ” คือการลงมือทำสิ ถ้าเราไม่ลงมือทำจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้ามันเป็นคำว่าทำสิเฉยๆ มันจะธรรมดาเกินไป เราอยากให้มีความอินเตอร์และมีความมีลูกเล่นหน่อย ชื่อวงของเราเลยเป็น Trumsey ประมาณนี้ครับ
นิยามความเป็น Trumsey ไว้ว่ายังไง
คิว: สำหรับพวกผม พวกผมมองว่าเราเป็นเหมือนวัยรุ่นที่สื่อสารเรื่องราวชีวิตผ่านเสียงดนตรี ดนตรีมีความเป็นวัยรุ่น สนุก ทะเล้น เนื้อร้องที่มีความฉีกแวกแนว แต่มีความหมายที่ลึกซึ้ง

เห็นว่าทำวงตั้งแต่มัธยมเลย แบ่งพาร์ตระหว่างดนตรีกับเวลาเรียนยังไง
คิว:ของคิวตอนนั้นมันค่อนข้างยากเลยครับ ตอนนั้นคิวอยู่ม.6 พอดี แล้วเพลงก็กำลัง Mass ตอนนั้นยังไม่ได้อยู่กับ Wayfer Record เลยไม่มีคนดูแล เรื่องโชว์หรือเรื่องลิขสิทธิของเพลงที่นำไปใช้ ตอนนั้นคิวก็หนักมากเลยครับ เหมือนคิวต้องแบ่งเวลาเตรียมสอบและแบ่งเวลาติวอีก ต้องแบ่งดีๆ เลยครับว่าควรให้ความสำคัญกับอะไรก่อน
คิม: อย่างของผมนะครับ อย่างของผมก็สอบ ตระเวนสอบพวก SAT IELT ที่เขาต้องสอบเพื่อยื่นเข้ามหาลัย ซึ่งก็กำลังทยอยสอบ ผมก็แบ่งเวลาได้อยู่ครัล
มิกกี้: คล้ายๆ กันครับ เราต้องไปสอบเหมือนกันเพราะอยู่ชั้นเดียวกัน บางครั้งเขาก็นัด แต่พูดตรงๆ บางครั้งผมก็บิด มิกกี้: แต่เราก็ยังไปคนละรอบ แบ่งเป็นคนที่อัดเสียง อัดกีตาร์
สองคนมีแพลนจะเข้าคณะดนตรีไหมหรือสนใจเข้าคณะอื่น
มิกกี้: ไม่เลยครับ (หัวเราะ)
คิว: เรามองเป็นแบบทางคู่กัน อยากมีอะไรที่ทำเป็นหลัก-รอง
มิกกี้: พวกเราคิดว่าดนตรีเป็นงานของเรา แต่เราก็ยังอยากเรียนรู้ในสิ่งที่มันไม่ใช่ดนตรีเหมือนกัน ถ้าเราเรียนผมคิดว่ามันจะสุดโต่งเกินไป แค่นั้น แล้วคิมอะคิดยังไง
คิม: ตอนเด็กๆ เคยอยากเข้าทางสายดนตรีเหมือนกัน เนื่องจากตอนเด็กๆ ผมค่อนข้างจริงจังเรื่องดนตรี อยากแบบเข้าพวกเอกเปียโน แต่พอโตขึ้นมาผมก็ไม่ได้ชอบเปียโนมากขนาดนั้น สักพักก็คิดเหมือนมิกกีกับพี่อิ้กที่อยากเรียนคู่ๆ ขนานกันไปประมาณนี้ จะได้เป็นสองเส้นทางที่มีโอกาสเหมือนกันทั้งคู่
คิว: สำหรับคิว เคยได้ยินรุ่นพี่นักดนตรีพูดมาว่าพอเราได้เรียนดนตรี ได้ทำอาชีพนักดนตรีจริงๆ งานอดิเรกของเราอาจจะเปลี่ยนไป ดนตรีอาจจะเป็นสิ่งที่เราต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากทำ ก็เลยเลือกเข้าบริหารดีกว่า
ความรู้สึกแรกหลังได้เซ็นสัญญากับ Wayfer Record
คิว: หลังจากเพลง จีบเธอไม่ได้ (ก็เลยจีบแม่เธอแทน) พวกเราก็กำลังอัดเพลงกันอยู่ เค้นพลังอัดเพลงกันเล่นๆ เหนื่อยมาก วันนั้นเลยไปกินปิ้งย่างเกาหลี
มิกกี้: กินๆ อยู่แชทจากมือถือก็เด้งมาว่า
“สวัสดีค่ะ จาก Wayfer Record สนใจอยากให้เข้ามาคุยกันหน่อย มาส่งเดโม่ให้ฟัง”
มิกกี้: ตอนนั้นพวกเราก็กินข้าวไม่ลงเลย
คิว: ตื่นเต้นมาก เพราะพวกเราไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานอะไรที่มันใหญ่ขนาดนี้ครับ ก็รู้สึกดีใจมาก
ปล่อยเพลงแรกมาก็แมสเลย
มิกกี้: ตอนแรกช็อกครับ เพราะไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ ตอนแรกเราแค่คิดว่าถ้าทำแล้วมันไม่ได้อะไรมากก็จะเฟดตัวจากเรื่องดนตรีแล้ว พอมันมางี้ก็เลยใส่เต็มที่เลย ก็ไม่ได้คิดว่าจะดังจริงๆ ครับ (หัวเราะ)
คิม: อย่างผมตอนแรกก็คิดไว้อยู่ครับว่ามีสิทธิดัง เพราะว่าเนื้อหาของเพลงแปลกใหม่ ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ผมจำได้ว่ามีเพจนำไปลง จนมีคนตามไปฟังจากเพจเขาเพราะเพจเขามีผู้ติดตามหลักล้านเลย วิวเลยค่อยๆ ขึ้น พออยู่ใน Tiktok ก็ไหลไปเลย
คิว:ของคิวก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ตกใจเหมือนกันครับก็ไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนั้น จริงๆ เพลงนี้คิวแต่งเพราะ Passion ที่คิวเคยทำมาตลอด ทำก็เพราะอยากทำ พอมันดังแล้วก็วุ่นอยู่ แต่ดีใจมากเลยครับ สิ่งที่เราตั้งใจทำ คนก็ได้ฟังได้เห็นแล้ว รู้สึกดีใจมากครับ
วิธีการทำเพลงในสไตล์ของ Trumsey
คิว: ปกติคิวจะเป็นคนเขียน คน Produce คิวก็จะชอบตั้งคำถาม คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็ถ้ามีไอเดียอะไรก็จะจดใส่โน้ตไว้ และเอาไอเดียไปพยายามแต่งต่อ คิวชอบอะไรที่มันแปลก แหวกๆ หน่อย แต่ก็นั้นแหละครับ พยายามทำอะไรที่มันน่าฟัง
มาพูดถึงเพลงล่าสุดกันบ้างอย่าง เธอสวยเกินมนุษย์มนา
คิว: ตอนนั้นคิวกำลังจีบสาวคนหนึ่งอยู่ครับ เลยแต่งฮุกมา อยากชมสาวว่าสวย กำลังคิดอยู่ว่ามันจะสวยยังไงดีให้คนอื่นเปรียบเทียบไม่ได้ ก็เลยได้คำว่า ”เธอสวยเกินมนุษย์มนา baby girl เธอเหมือนนางฟ้า“ เป็นนางฟ้าเลยไม่ใช่คนแล้ว เราคิดว่าแค่อัดเดโม่ลงสตอรีไอจีเล่นๆ เพื่อนคิวชื่อ กาก้า (Gagagoesbackhome) ตอบกลับสตอรีมาว่าอยาก Feat ด้วย แล้วก็ส่ง Voice record มาท่อนสวยเกินมนุษย์มนาของเขามา พอผมฟังก็รู้สึกชอบมาก ก็เลยแต่งต่อไปเรื่อยๆ แล้วเรียกเพื่อนๆ มาอัดท่อนให้ครบ

นิยามความสวยเกินมนุษย์มนา
คิม: ของผมมองที่นิสัยมากกว่าครับ ผมชอบคนใจดี เข้าใจผม ประมาณนี้ครับ (หัวเราะ)
มิกกี้: ผมก็มองที่ภายในเหมือนกันครับ ภายในหัวใจ ก็คือเราไม่ได้ชอบคนใจดี แต่เราชอบคนที่เข้าใจเรา รับและยอมรับเราได้ในทุกแบบ แล้วคุณละครับคุณคิว
คิว: เอาที่ภายนอกก่อนแล้วกันครับ เริ่มที่ภายนอกกันก่อนเลยครับ เพื่อนๆ จะรู้ว่าคิวชอบคนคมเข้ม ภายในก็ต้องนิสัยดีเป็นคนน่ารัก อะไรประมาณนี้ครับ
ทั้งสามคนแบ่งพาร์ตการทำดนตรียังไง
คิว:ผมจะขึ้นเป็นเดโม่มาก่อน มากับเดโม่ดนตรี แล้วก็เสียงร้อง ก็จะมีเนื้อเสียงของคิวที่อัด แล้วก็จะมีพวกซิน พวกคีย์บอร์ดมาไว้ มีกลองไว้ เหลือกีตาร์กับเบสไว้ให้มิกกีมาอัดครับ
มิกกี้: พอเสร็จก็จะส่งให้ผมฟัวก่อนประมาณนี้ แล้วก็มีนอร์มมาให้ผมไปอัด อัดเสร็จก็จะส่งให้คิม ไม่ก็จะทำพร้อมกันเลย คิมก็จะไปอัดกับพี่คิว ก็ประมาณนี้ครับ แล้วก็เสร็จ
อยากรู้ว่าทั้งสามคนชอบท่อนไหนที่สุด
คิว:ผมขอเริ่มก่อนเลยครับ เพลงนี้ผมชอบท่อนพรีฮุกมากเลยครับที่มันร้องว่า
“เธอน่ารักถึงแม้เธอโกรธ ตอนเธอยิ้มเหมือนโดนสะกด คนในโลกทั้งใบคงมองเธอหมด เธอคงคิดว่าฉันตลก ถ้าบอกว่าชอบเธอมาตลอด งั้นขอให้เธอลองฟังเพลงนี้”
เป็นท่อนที่แต่งแล้วรู้สึกว่ามันคม เล่นคำ “ตลก ตลอด” “หรือเธอน่ารักถึงแม้จะโกรธ” อะไรงี้ครับ น่ารักดีครับ
คิม: ผมก็ท่อนเดียวกับพี่คิวเหมือนกัน
คิว: ขี้เกียจตอบ (หัวเราะ)
คิม: ไม่ใช่ๆ ผมจำได้ว่าช่วงแรกๆ ที่พี่คิวแต่งเพลงนี้ให้ผมร้อง ผมชอบล้อท่อนนี้พี่เขา เพราะอะไรนะจำไม่ได้แล้ว
มิกกี้: ล้อว่าเหมือนเพลงไทยๆ ตลก ตลอด ตลอด ตลก

งานอดิเรกนอกจากดนตรี
มิกกี้: เริ่มที่ผมเลย ส่วนมากผมก็จะเล่นกีตาร์ครับ เล่นสนุกๆ เล่นเกมกับคิมบ้าง เพื่อนผมบ้าง
คิม: ของผมก็มีเล่นเกมครับผม บางครั้งก็จะเล่นกับมิกกี้ บางครั้งก็เล่นคนเดียวบ้าง ส่วนถ้าไม่เล่นเกมก็จะดู Youtube ดูซีรีส์ ต่อ Lego ไปด้วย
คิว:ส่วนของคิวก็มีงานอดิเรกเยอะมาก เพราะคิวไม่ชอบอยู่บ้าน ต้องออกไปหาเพื่อน ชอบเที่ยว ส่วนใหญ่ก็จะชอบไปดูของมือสอง ไปเดินเล่นในเมืองเก่า แล้วก็ไปนั่งร้านกาแฟ ฟีลคนติสต์ๆ (หัวเราะ) อยากติสต์ๆ ประมาณนั้นครับ
คุยเรื่องการเรียนบ้าง อยากรู้ว่าวิชาที่ชอบและไม่ชอบของทั้งสามคนคืออะไร
คิว: เราสามคนน่าจะชอบเหมือนกันนะครับ เราน่าจะชอบพวก math physic chemical ได้หมดเลยครับ ตอนที่มิกกี คิม ติว SAT คิวก็ไปติวด้วย ช่วยๆ กันดู เพราะเราชอบอะไรคล้ายๆ กัน แต่คิวไม่ชอบประวัติศาสตร์ครับ จำไม่ค่อยได้ เรียนไปก็ลืม
มิกกี้: ไม่ชอบวิชา Reading & Writing คือมันอ่านสิ่งที่เราไม่อยากอ่าน แล้วก็เขียนสิ่งที่เราไม่อยากเขียน Essay 200-300 คำบ้าง แล้วอ่านสิ่งที่เราไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าต้องการอะไร จะสื่ออะไร
คิม: ผมไม่ได้ก็อปนะครับ แต่ไม่ชอบ Reading & Writing เหมือนกัน เพราะเรียนเหมือนกัน ก็คือครูจะให้เราอ่านหนังสือแล้วเป็นภาษาที่เก่าแก่ ก็เข้าใจยากมาก
ศิลปินในดวงใจของแต่ละคน
คิว: คิวให้ทั้งใจเลยกับพี่นะ Polycat คิวชอบมาก ทั้งดนตรี ทั้งเนื้อเพลง พี่นะโปรดิวซ์เอง แต่งเอง และเขียนเนื้อเพลงที่มีการเปรียบเทียบแบบลึกๆ แปลกๆ ซึ่งหาคนทำแบบนี้ในไทยยากมาก คิวถึงกับเปิดเนื้อเพลงของ Polycat อ่านบ่อยๆ เลยครับ
คิม: ผมชอบ Charlie Puth ครับ เขาโปรดิวซ์เองด้วย แถมชอบทำคลิปใน TikTok ที่หยิบเสียงจากของรอบตัวมาทำเพลง แบบบีบ กด เคาะ แล้วกลายเป็นเพลงขึ้นมาเลย แล้วเขาก็แต่งเพลงให้ศิลปินระดับโลกหลายคน เพลงก็ดังด้วย ผมเลยชอบเขาครับ
มิกกี้: ผมชอบพี่รัฐ Tattoo Colour ครับ เดิมทีผมชอบฟังเมทัล ฟังร็อก แต่พอมาอยู่ในวงสายป๊อป ก็อยากซึมซับอะไรใหม่ ๆ ซึ่งพี่รัตน์เป็นคนที่เอกลักษณ์สูงมาก แค่ได้ยินก็รู้เลยว่า “อันนี้แหละพี่รัฐแน่ ๆ” ผมเลยยกให้พี่รัฐเป็นไอดอลครับ


มองภาพวง Trumsey ในอีก 3–4 ปีข้างหน้าไว้ว่าจะเป็นยังไง
คิว: เราคงยังรักษาคาแรกเตอร์เดิมไว้ทั้งแนวเพลงและเนื้อเพลง แต่อยากเพิ่มความป๊อปเข้าไปบ้าง หรือลองแนวอื่น เช่น เพลงเศร้า ให้มีหลายรสชาติ
ขอ 3 คำให้ TRUMSEY
ดีด เด็ด โดน!

Contributors
อาร์ตไดผู้รักงานออกแบบที่เขียนคอนเทนต์ได้นิดหน่อย ชอบเล่าตัวเลขและข้อมูลด้วยภาพ ชอบกินเส้นมากกว่าข้าว ชอบดูหนัง ชอบแมว และชอบเธอ

