“สุขสันต์วันเกิดนะ”

“ยังจำวันเกิดเราได้ด้วยเหรอ”

ใครที่ชะงักกับบทสนทนานี้ เราเชื่อว่าต้องเป็นเหล่าคนที่เคยทักหาแฟนเก่า (หรือคนเก่าคนโปรด) เฉพาะวันสำคัญเท่านั้น เช่น วันปีใหม่ วันคริสต์มาส วันสงกรานต์ แต่วันที่เชื่อว่าหลายคนทักไปหาคนเก่าแล้วรู้สึกไม่เคอะเขินนัก คงเป็นเนื่องในโอกาส “วันเกิด”

แต่การจะรอวันเกิดของคนโปรดคงต้องใช้ความอดทนต่อ “ความคิดถึง” อย่างมหาศาล ซึ่งหลายคนคงหายาใจเพื่อฮีลให้ตัวเองไม่ต้องโดดเดี่ยวจนเกินไปในแบบที่ต่างกัน ฮิว-พัชรพล วงศาโรจน์ หรือ “The White Hair Cut” จึงอยากส่งมอบเพลงนี้มาอยู่เป็นเพื่อนและมาเป็นตัวช่วยระบายความในใจของเหล่าคนที่ยังไม่มูฟออน และรอคอยวันเกิดของเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

เพลง “คุยกับเธอได้แค่วันเกิด” ที่ถึงแม้ว่าเพลงจะแอบเศร้าแค่ไหน แต่หนุ่มฮิวได้เผยถึงแรงบันดาลใจและที่มาของเพลงเพลงนี้ที่จะทำให้

ทุกคนอาจจะถึงกับหลุดขำได้เลยทีเดียว

ในวันนี้เราจึงพาทุกคนมาหาความหมายของเรื่องราวเหล่านี้กับ MV ที่แฝงเรื่องราวและเป็นคำตอบที่ว่าทำไม “ความรักไม่จำเป็นจะต้องเป็นความรักของแค่คนสองคน” ผ่านบทความนี้ไปด้วยกัน

ที่มาของชื่อ “The White Hair Cut” ชื่อศิลปินที่คนมักเข้าใจผิดว่าเป็นชื่อวง

เริ่มมาจากตอนที่เริ่มทำเพลงตอน ม.4 เราเรียน รด.และตอนนั้นต้องตัดผมเกรียน ซึ่งเป็นจังหวะที่ทำเพลงเสร็จและจำเป็นจะต้องมีชื่อของตัวเองเพื่อออกผลงาน เรารู้สึกว่าถ้าเราใช้ชื่อสักชื่อหนึ่งที่พรีเซนต์ความเป็นหัวเกรียนของเราในช่วงนั้น ประมาณว่าให้ชื่อและหัวของเรามันซิงก์กัน เลยใช้ชื่อแบบตรงๆ ว่า The White Hair Cut หรือ แปลง่ายๆ ว่า ผมขาวสามด้าน เรารู้สึกว่าชื่อนี้มันเพราะดี เลยใช้ชื่อนั้นยาวมาถึงตอนนี้เลย

ทำไมถึงชอบทำเพลงคนเดียว

เราลองนึกภาพช่วงประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว เด็กมัธยมที่อยากทำเพลงจริงๆแทบจะไม่มีเลย บางคนเขาอาจจะแค่ชอบเล่นดนตรี ชอบตีกลอง ฟังเพลง เล่นกีฬา แต่คนที่เขาจะต้องมานั่งทำเพลงจริงจังมันแทบไม่มี ถ้าเรามัวแต่รอเพื่อนหรือรอใคร เราก็คงไม่ได้ทำเพลงสักที เราเลยต้องเริ่มลงมือด้วยตัวเอง เริ่มหัดเล่นเครื่องดนตรีทุกอย่าง

และการทำเองทุกอย่างสามารถทำได้เดี๋ยวนั้นเลย แต่จอาจจะมีกระบวนการอื่นๆ ที่ต้องพึ่งทีมงาน อย่างการที่เราตีกลอง เล่นเบสไม่เก่ง หรือการมิกซ์ที่เราไม่ได้ถนัด เราก็ยังต้องส่งต่อไปให้ทีมงานต่อ แต่ในส่วนของกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ 

ทุกความคิด ทุกไอเดีย ล้วนออกมาจากตัวเราเองทุกอย่าง 

นิยามแนวเพลงของ The White Hair Cut 

Indie Pop และ Retro Pop 

บางเพลงจะมีกลิ่นอายของความเป็นป๊อบร็อก ดนตรีป๊อบที่มีกลองสด มีกีตาร์ มีดนตรีร็อกที่ดรอปลงมาหน่อย ดนตรีที่ค่อนข้างนุ่มและมีความ Mellow ซึ่งจะเรียกว่า Soft Rock ซึ่งดนตรีส่วนใหญ่ของผมก็จะเป็นประมาณนั้น แต่คิดว่าเรียกรวมๆ ทั้งหมดว่า Retro Pop หรือเพลงป๊อบย้อนยุค ประมาณนี้ดีกว่าครับ 

ทำไม The White Hair Cut ชอบแต่งเพลงเศร้า

ฮิว : ด้วยความที่แนวดนตรีมันทำแล้วฟังดูเศร้า หรือวิธีการเลือกเมโลดี้ด้วยครับ เราต้องขอเล่าย้อนก่อนว่า วิธีการที่ผมเริ่มทำเพลง ผมจะเริ่มจากเมโลดี้หรือทำนองก่อน อย่างเราเล่นเปียโน หรือกีตาร์ก่อน ซึ่งเมโลดี้นั้นมันทำให้รู้สึกเศร้า เราก็เลยจำเป็นที่จะต้องเขียนเนื้อเพลงที่เศร้าลงไป ผมไม่แน่ใจว่ามันมาจากวิญญาณของตัวเองข้างใน หรือมันอยากจะร้องอะไรบางอย่าง แต่ในเมื่อข้างในเรามันกำลังพูดออกมา เราก็อธิบายมันด้วยภาษาที่มันกำลังอธิบายว่า เมโลดี้นี้มันกำลังเศร้า เราก็เขียนเนื้อเพลงที่มันเศร้าลงไปตามนั้นครับ 

แต่ก็เห็นว่ามีเพลงรักอยู่เพลงหนึ่งนะ 

มองย้อนกลับไปคือ มันเป็นการทดลองที่ช่วงนั้นทำเพลงช้ามาเยอะ เราเลยอยากจะลองทำเพลงเร็วสักเพลง พอทำดนตรีได้ประมาณหนึ่งจึงเริ่มรู้สึกว่า เพลงนี้คงต้องพูดเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรัก เพราะว่าเราทำดนตรีแล้วเหมือนเราได้กลิ่น เห็นสีของมันแล้ว มันทำให้เรารู้สึกว่า ดนตรีเพลงนี้มันโคตรเพลงรักเลย แล้วก็เขียนเนื้อที่มันมีลักษณะเป็นเพลงรักเข้าไป ทุกอย่างมันมาจากการที่ดนตรีมันพาเราไปหมดเลย

การทำเพลงมาจากดนตรีและเมโลดี้ที่มันพาเราไป เราจับอารมณ์มันได้ว่ามันควรจะไปทางไหน เราก็ใช้เซนส์ (sense) ของเราในการจะอธิบายมันด้วยภาษา เหมือนเราใช้ภาษาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจง่ายขึ้นว่าอารมณ์นี้มันคือคำว่าอะไร 

ดนตรีกับเมโลดี้พามาจนถึงเพลงใหม่ “คุยกับเธอได้แค่วันเกิด” 

ความจริงเพลงนี้ได้ชื่อเพลงมาก่อนเมโลดี้ ซึ่งเกิดขึ้นตอนผมกำลังแปรงฟันอยู่ ตอนนั้นผมกำลังคิดว่าเพลงต่อไปของเราจะชื่ออะไรดีนะ จนมีคำที่แว้บเข้ามาในหัวว่า “คุยกับเธอได้แค่วันเกิด” มันค่อนข้างชัดเจนในอารมณ์และบริบทของคำนี้ รับรู้ได้เลยในทันทีว่า เพลงนี้จะต้องมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร และต้องทำให้เรานึกย้อนไปได้ด้วยว่า สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นกับเราด้วยเหมือนกัน เราก็เลยนำชื่อเพลงนี้มาแมทช์กับเมโลดี้ที่เราแต่งไว้ในโน้ต เราลองเลือกจนเจอเมโลดี้ที่มันเข้ากับเนื้อหาที่มีในตอนนี้ เลยนำสองอย่างมาแมทช์กันแล้วแต่งเป็นเพลงนี้ออกมา 

อยากให้เล่าการทำเพลงนี้ให้ฟังหน่อย

พอเราได้เนื้อร้องแล้วก็ทำนองมาแล้ว เราก็นำไปพัฒนาในคอมฯ ต่อ เรียบเรียงดนตรี และคิดว่า เราจะไปต่อในทางไหนดี ช่วงนั้นค่อนข้างอินกับดนตรีในยุค 70 ซึ่งมันจะมีความเก่า เน้นเปียโน เครื่องสาย ออเคสตรา เราเลยดีไซน์ให้เพลงนี้มีดนตรีเน้นไปทางเครื่องสาย มีความออเคสตรานิดๆ ถ้าเกิดได้ฟังเพลงนี้ก็จะรู้ได้เลยว่ามีเสียงเครื่องสายแบบไวโอลินเยอะมาก เข้ามาตั้งแต่ 2 วินาทีแรกของเพลงนี้เลย

ที่มาของ MV เพลง “คุยกับเธอได้แค่วันเกิด” 

MV เพลงนี้กำกับโดยพี่นรา “นราทิพย์ ชัยณรงค์” เขาเป็นผู้กำกับที่ผมติดตามผลงานมาตลอด 

MV ทุกผลงานของเขามันเรียกน้ำตาของเราได้เกือบทุกตัวเลย เลยรู้สึกว่าถ้าเราได้ร่วมงานกันในเพลงนี้คงน่าจะน่าสนใจมากๆ ซึ่งประเด็นอยู่ตรงนี้เลยครับ 

ตอนแรกที่ติดต่อไป เราเลยกังวลว่าเขาจะรับทำไหม เพราะเขาเป็นผู้กำกับที่ฮอตเลย คิดว่าเขาจะมาทำกับเพลงแบบเราไหม เรารอเป็นเดือนเลยครับ กว่าเขาจะตอบรับมาว่าเขารับทำนะ 

ส่วนกระบวนการการทำ MV หลังจากเราส่งเพลงไปแล้ว เราก็เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวันเกิด ซึ่งในเพลงอาจจะเล่าว่ามันเป็นวันเกิดของคนสองคน เรื่องราวของหนุ่มสาวสองคนที่เป็นแฟนกัน แต่พี่นราเขาอยากขยายว่า วันเกิดมันไม่ได้มีเรื่องแค่ของคนสองคน แต่มันมีคนเกิดทุกวัน กลายเป็นเหมือนประมวลวันเกิดของทุกๆ เดือน มาเป็น MV นี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวันเกิดที่คุณแม่เตรียมขนมให้ลูก หรือวันเกิดของสุนัขที่ตายไปแล้ว ซึ่งมากกว่าแค่เรื่องราวของคนสองคนที่เป็นแฟนกันแบบเดียว พอเราได้ฟัง เรารู้สึกอึ้งที่มันขยายแบบเรื่องราวจากแค่ที่เราเขียน แต่ขยายไปได้ทุกความสัมพันธ์ มันก็เลยรู้สึกคุ้มค่ากับที่เรารอพี่เขา เรารู้สึกชอบมากๆ และรู้สึกว่าคนดูน่าจะมีสักช็อตนึงที่รีเลทกับ MV ได้ ก็เลยอยากให้ลองเข้าไปดูกันครับ 

หลังทำ MV ฮิวมีมุมมองต่อความรักเป็นแบบไหนบ้าง 

ฮิว : จริงๆ มันก็ไม่ได้ส่งผลในมุมมองความรักอะไรมากขนาดนั้น แต่มันก็ส่งผลตรงที่เราเข้าใจในส่วนของความรักมากขึ้นว่า ความรักไม่ได้มีแค่ความรักแบบแฟนอย่างเดียว

ความรักคือทุกอย่าง เราอาจจะรักสัตว์ที่เราเลี้ยง เราอาจจะรักสิ่งของสิ่งนี้ พอได้ดู MV แล้ว เรายิ่งรู้สึกว่าเราได้เห็นโลกที่มันกว้างขึ้น มุมที่มันมากกว่าเดิม มากกว่าที่มันจะไปติดใจเรื่องความรักหรือความสัมพันธ์แต่เรามองเห็นเรื่องราวของมนุษย์มากขึ้นผ่าน MV ตัวนี้

โมเมนต์ไหนที่ประทับใจที่สุดในการทำเพลงนี้ 

คิดว่าน่าจะเป็นตอนที่ได้อัดเสียงเพลงนี้ ต้องบอกก่อนว่าเพลงนี้เราอัดเครื่องสายสดๆ เลยครับ นักดนตรี 4 ท่าน มีไวโอลิน 2 คัน เชลโล 1 ตัว และวิโอล่าอีกหนึ่ง มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเครื่องสายจริงๆ อัดไปลงในเพลงของตัวเอง มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ เพราะมันเป็นความฝันตั้งแต่สมัยก่อนที่เราอยากจะมีเสียงเครื่องดนตรีเครื่องสายจริงๆในเพลง แล้วพอมาเห็นกับตา มันเติมเต็มทุกอย่างในใจมาก 

ชอบท่อนไหนที่สุดในเพลง “คุยกับเธอได้แค่วันเกิด” 

“ในวันที่เธอพบใครอีกครั้ง หวังว่ามันจะเป็นของขวัญที่ดีของเธอ อวยพรตรงนี้ให้เธอเสมอ หากแม้เธอไม่ได้ฟัง” ความหมายของมันคือ ไม่ว่าเขาจะไปเติบโตอยู่ที่ไหนแต่เราก็ยังอวยพร อยากมองเห็นความสำเร็จของเขาไกลๆ จากตรงนี้เสมอ มันดูรู้สึกกับทั้งประโยคนี้ดี 

อยากฝากอะไรให้กับคนที่ฟังเพลงนี้

ผมคิดว่าเพลงนี้มันน่าจะเป็นตัวแทนที่ดีในการส่งไปอวยพรให้ใครสักคน ถ้าเรารู้สึกว่ามันไม่มีข้ออ้างที่จะทักไปแล้ว ผมแนะนำว่าลองส่งเพลงนี้ไปให้เขาดูครับ “คุยกับเธอได้แค่วันเกิด” 

ชอบผลงานไหนของตัวเองมากที่สุด

จริงๆชอบทุกเพลงเลยครับ แต่ถ้ามีที่พิเศษสุดๆ เลย และคิดว่าผมไม่น่าจะทำแบบนี้ได้แล้ว ก็คือเพลง “ประตูอัลลอย” มันเป็นเพลงที่พลังของเด็กม.ปลาย มากๆ เลยครับ การที่เราจะมีความรู้สึกนึกคิดหรือหรืออารมณ์แบบนั้นอีกในวัย ณ ตอนนั้น มันไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกแล้ว มันเป็นเพลงที่ติดอยู่ในใจมาตลอดและคิดอยู่ตลอดว่าไม่น่าทำแบบนี้ได้แล้วอีกแน่นอน มันก็เลยเป็นเพลงที่ชอบที่สุด ณ ตอนนี้ 

มีศิลปินที่อยากร่วมงานด้วยไหม 

ฮิว : จริงๆถ้าเป็นช่วงนี้ อินกับเพลงของพี่ๆ LANDOKMAI รู้สึกว่าเขาทำดนตรีที่เป็นแนวเรโทร ค่อนข้างวินเทจเหมือนกัน ถ้าได้มาทำเพลงด้วยกันคงเป็นการทำเพลงที่ Combination แล้วออกมาได้น่าสนใจ

มีศิลปินในดวงใจไหม

ให้เป็น The Beatles  กับ The1975 หลายๆ เพลงค่อนข้างเติมเต็มผมมาก เรื่องของวิธีการทำเพลงหรือวิธีการทำเพลง ผมยกให้สองวงนี้คือที่สุดเลย 

ดนตรีมีอิทธิพลกับ The White HairCut อย่างไร

ดนตรีมีอิทธิพลมากๆ เลยครับ สมมติว่าเวลามีเรื่องที่ติดค้างในใจ หรือมีอารมณ์อะไรบางอย่างที่อยากจะเล่า ไม่จำเป็นต้องไปโพสต์ที่ไหน ไม่จำเป็นต้องไปบอกใคร แต่ผมเอาอารมณ์นั้นหรือเรื่องราวที่อยากจะเล่า มาเล่าผ่านเพลง เล่าผ่านดนตรี นี่มันคืออิทธิพลที่สำคัญที่สุดกับ The White Hair Cut คือดนตรีเป็นสิ่งที่ฮีลทุกอย่าง มันเหมือนเป็นยาที่ช่วยระบายทุกอย่างในชีวิต

Contributors

คอนเทนต์สาวที่ชอบใช้ชีวิตแต่โดนชีวิตสู้กลับอยู่ตลอด ความฝันสูงสุดแค่อยากนอนฟังเพลงกอดแมวอ้วนไปวันๆ