จริง ๆ ตัวผู้เขียนได้ยินสปอยเรื่องอัลบั้มนี้ในงาน Gene Lab Concert ที่ผ่านมานี้ ทำให้ผู้เขียนตั้งตารอกับอัลบั้มชุดแรกภายใต้สังกัด Gene Lab และเป็นอัลบั้มชุดที่ 2 ของวงนับจากอัลบั้ม Eight ในปี 2019 และแน่นอนก็ได้มีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มนักแสวงโชคเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้เขียนก็ได้ไปรับชม ซึ่งประทับใจมาก ๆ และสั่งซื้ออัลบั้มหลังจบงานทันที
แต่ก่อนจะรีวิวอัลบั้มเราอยากจะแนะนำวง Asia 7 แบบพอสังเขปสักนิดนึง
Asia 7 เป็นวง Asian Fusion Pop ที่มีสมาชิก 8 คน โดยมีการผสมระหว่างดนตรีฝั่งตะวันตกอย่าง กลอง กีตาร์ เบส คีย์บอร์ด แซกโซโฟน และ ดนตรีพื้นบ้านอย่าง พิณ แคน และ ซอ จึงเป็นวง Fusion Pop ทีมีการผสมกันของดนตรีแจ๊ส คลาสสิค ป๊อป ร็อค รวมไปถึงดนตรีไทยและตะวันออก ซึ่งเปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกอย่าง ขวัญเจ้าเอย เมื่อปี 2017
อัลบั้มนักแสวงโชค (The Seeker) มีทั้งหมด 8 เพลง นำเสนอเรื่องราวของความรัก โชคชะตา ประกอบกับมีรสชาติในแต่ละเพลงที่แตกต่างกัน แต่ล้วนแล้วมีการเข้าถึงผู้ฟังที่เข้าใจง่ายและอินไปกับบทเพลงด้วยภาษาที่มีความสวยงามและร่วมสมัย
Track by Track
Intro + นักแสวงโชค (The Seeker)
เปิดอัลบั้มด้วยเนื้อหาของผู้คนที่ล้วนเดินทางสู่จุดหมายที่ต้องการในใจที่ล้วนแตกต่างกัน บ้างก็เรื่องฐานะ ความรัก ครอบครัว ชื่อเสียง ประกอบกับดนตรีที่มีการไล่อารมณ์ได้อย่างมีชั้นเชิงราวกับเพลงประกอบภาพยนตร์แนวผจญภัยสักเรื่องหนึ่งก่อนจะเข้าดนตรีบรรเลงช่วงท้ายที่มีความโดดเด่นทั้งดนตรีสากลและพื้นบ้าน ซึ่งเหมาะกับเป็นเพลงเปิดอัลบั้มอย่างยิ่ง
ถ้าเธอคิดถึงใคร (If You…)
เพลงแอบรักที่มีความน่ารักแต่มีความขมบนปลายลิ้นเบา ๆ ที่อยากบอกว่าถ้าคิดถึงคนที่เรารู้สึกดีทำไมยังต้องทน แต่ถ้าแอบรักจนจะบอกความในใจแต่ถ้าเขามีคนที่หมายปองอยู่ก็สายไปเสียแล้ว ผิดกับภาคดนตรีที่มีความน่ารักในความน้อยชิ้นแต่เล่นในฟีลเพลงที่มีความสว่าง มีท่อนโซโล่ที่เป็นการรับส่งกันระหว่าง ซอและพิณ ประกอบกับมีท่อนฮัมเมโลดี้ในช่วงท้าย มันเลยเป็นเพลงที่มีความน่ารักมาก
ลืม (Fade Away)
เพลงช้าที่กระแทกใจและชวนเสียน้ำตาที่บอกว่าการลืมใครสักคนที่เรารัก เรามีความทรงจำร่วมกันมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยลืมฉันไปก่อนเพราะตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ เป็นอีกเพลงที่มีแสดงอารมณ์ของความเหงาและความเจ็บปวดที่กินใจมาก เป็นเพลงที่ผู้เขียนได้ฟังตอนเล่นสดก็แอบน้ำตาคลอเบา ๆ กับอารมณ์ของเพลงนี้
จำขึ้นใจ (Unforgettable)
เราเชื่อว่าเพลงนี้น่าจะเข้าถึงง่ายกับคนฟังอีกเพลงหนึ่ง ด้วยความที่เพลงมีกลิ่นอายของเพลงพื้นบ้านในอีสานใต้ เราจะได้ยินเมโลดี้ที่มีกลิ่นอายของเพลงพื้นบ้านของอีสานใต้เป็นระยะ ๆ ชนิดที่ว่าถ้าเราฮัมเมโลดี้ท่อนโซโล่ที่มีการ Unison กันของเครื่องดนตรีจะร้องอ๋อทันทีว่ามันคุ้นมาก ประกอบกับภาษาและเนื้อหาที่เลือกใช้ในเพลงก็มีความเป็นคนต่างจังหวัดในเชิงมีคนรักที่จากไปเพราะต้องไปทำงานที่ไกลบ้านที่ทำให้ต้องรอแล้วรอเล่า รอวันที่จะอยู่พร้อมหน้ารู้ตัวอีกทีก็ไปอีกคนไปเสียแล้ว ซึ่งการเลือกสรรพนามของฉันและเธอเป็น พี่กับน้อง มันทำให้มีกลิ่นอายของเพลงลูกทุ่งเบา ๆ แต่ดนตรีก็มีรสชาติของเป็นความร็อคอย่างเข้มข้นเช่นกัน และขอบอกตรงนี้เลยว่า เพลงนี้เล่นสดสนุกมาก
ยานอนไม่หลับ (Oneirophobia)
เป็นอีกเพลงที่ฉลาดเล่นคำมาก ๆ มันเป็นเพลงช้าที่เล่าเรื่องเชิงว่า ยิ่งฝันดีมากเท่าไหร่ ตื่นมามันยิ่งช้ำใจเพราะยอมรับความจริงไม่ได้ที่เธอจากไป เป็นเพลงอกหักที่มีความเย็นและเจ็บปวดกับภาพอดีตอย่างมาก เชื่อว่าหลายคนชอบแน่นอน
เจ้าความรัก (Yearning)
เพลงที่อยากถามโชคชะตาว่าทำไมคนอย่างฉันไม่เจอกับความรักที่ดี ๆ สักที หรือเพราะตัวฉันไม่มีวาสนาต่อความรัก เป็นเพลงที่ดนตรีน้อย ๆ ช้า ๆ ก็ใส่เสียงแซคโซโฟนมาเพิ่มบรรยากาศของเพลงมันเหงามากขึ้น
ซ่อนหา (Hide And Seek)
เพลงที่ดุเดือด เผ็ดร้อนที่สุดในอัลบั้ม กับการเปรียบเปรยความรักที่แสนคลุมเครือที่รักกันอย่างดีและจู่ ๆ ก็หายไป ราวกับการเล่นซ่อนหาที่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที ได้แต่ถามกับตัวเองว่าเราทำผิดอะไรหรือเขาเป็นคนใจร้ายกันแน่ ภาคดนตรีที่ร็อคและดุเดือดเป็นอย่างมาก ทั้งแง่การใช้ซอในท่อน Intro แถมท่อนโซโล่ที่เล่นบนพิณมันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ
กล่อม (Lullaby)
เพลงสุดท้ายของอัลบั้มและเป็น Single แรกของวงในฐานะศิลปินสังกัด Gene Lab กับเนื้อหาที่ชวนทิ้งความทุกข์ ทิ้งความเศร้าและพักผ่อนไปกับเสียงเพลง จึงเป็นเพลงที่เหมาะสมกับการปิดอัลบั้มอย่างมาก
Final Thoughts
ภาพรวมของอัลบั้ม The Seeker จึงเป็นอัลบั้มที่นำเสนอความเป็น Asian Fusion Pop ที่ไม่รู้สึกเคอะเขินและลงตัวเป็นอย่างมาก หลายๆ เพลงเราจะได้ยินเสียงดนตรีฝั่งตะวันออกจากอย่างชัดเจนอย่างซอที่ได้ยินทุกเพลง แต่มีสำเนียงที่แตกต่างไปและมีความสากล ประกอบกับดนตรีทางฝั่งอีสานอย่างพิณ แคน ก็สอดแทรกให้ได้ยินอย่างกลมกลืนและลงตัว
รวมไปถึงเนื้อหาที่เข้าถึงกับคนฟังได้อย่างง่ายดาย เราเชื่อว่านับจากวงได้ปล่อยอัลบั้มนี้น่าจะฐานแฟนคลับเยอะขึ้น และอีกสิ่งที่ผู้เขียนขอการันตีเล่นการเล่นสดที่เนี๊ยบไม่ต่างกับฟังใน Master อีกทั้งวงก็มีประสบการณ์จากการทัวร์ต่างประเทศ เช่น อินเดีย สิงคโปร์ รวมไปถึงงาน ASEAN Music Showcase Festival 2021 ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้จัดงานดนตรีอิสระจากหลากหลายประเทศ และ Seoul Friendship Festival 2021 เทศกาลประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโซลที่เกาหลีใต้ ก็ยิ่งการันตีว่าวงนี้เจ๋งแค่ไหน
ขอให้วงได้เป็นที่รู้จักอย่างมากขึ้นในบ้านเราสักทีเถิด
Image Courtsey of ASIA7 Facebook Fanpage, Gene Lab
Contributors
Contributors
พนักงานออฟฟิศที่ชอบเข้างานเลทแต่เลิกงานตรงเวลา หลงรักเสียงดนตรีแสงสี งานภาพยนตร์มากกว่าบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นคนสู้งานแต่งานสู้กลับจนบ่นปวดหลังในทุกๆ วัน
