จริงๆ แล้วเธอมีใครอยู่ใช่ไหม

กับฉันที่เธอไม่ยอม… เปิดใจ

ถ้าเธอไม่รู้สึกกับความรู้สึกที่ฉันมี 

ในตอนนี้เธอควรจะตัดสินใจ (ถ้าเธอมีใครก็บอกมา)

จริงๆแล้ว เธอมีใครอยู่ใช่ไหม ไม่รู้ว่านี่คือชื่อเพลงหรือคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจของ 3 หนุ่ม “Roger That” อย่าง คิง-อภิรัชช ไชยบุรี (ร้องนำ), กิต-กิตติศักดิ์ บุญเสมอกุล (กีตาร์) และ เบส-พิเศษ คุณทรัพย์สถิต (คีย์บอร์ด) วงอัลเทอเนทีฟป๊อบส่งออกโดย Tero Music  กับเพลงล่าสุดอย่าง “จริงๆ แล้วเธอมีใครอยู่ใช่ไหม” บทเพลงที่ตั้งคำถามในความสัมพันธ์อันคลุมเครือ จนเริ่มไม่แน่ใจว่า ความสัมพันธ์นี้มีแค่เราหรือยังมีใครอื่นอยู่อีกหรือไม่… 

คอลัมน์ดนตรีนั้นคือชีวิตจึงอยากพามารู้จักสามหนุ่ม Roger That กันมากขึ้นผ่านไอเดียที่กว่าจะมาเป็นเพลงนี้ และความประทับใจระหว่างที่เกิดขึ้นระหว่างทางการเป็นศิลปิน ค้นพบกับตัวตนของ Roger That มากขึ้นด้วยกันกับบทความที่มีความยาว 2 นาทีนี้ไปด้วยกัน

ทั้งสามคนมาเจอกันได้ยังไง

กิต : เรียนที่เดียวกันและอยู่ชมรมดนตรีสากลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเหมือนกันครับ

เบส : ตอนแรกพวกเราอยู่คนละวงกันด้วย แต่เหมือนว่าวงของแต่ละคนก็แยกทางกันหมดเลย พวกเราเลยได้มาทำรวมตัวกันบ่อยๆ

กิต : พอมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันบ่อยๆ เลยคิดว่ามาทำเพลงด้วยกันไปเลยดีกว่า 

ทำไมถึงชื่อ Roger That

กิต ; มันเป็นคำที่ทหารใช้เวลาเขาวอสื่อสารกัน พอจะตอบว่า “รับทราบ” ทหารเขาก็จะพูดว่า “Roger that” 

คิง : เมื่อก่อนผมติดเกมด้วยครับ  เกมชื่อ Battlefield ซึ่งในเกมจะมีคำนี้ออกมาบ่อยๆ ซึ่งเป็นคำที่ไม่สามารถหาความหมายในตอนที่อ่านได้ แต่มีเพียงแค่คนในเท่านั้นที่จะรู้ความหมายของมันได้ ผมเลยรู้สึกว่ามันแปลกดี แล้วก็รู้สึกว่าดูเท่ดี ผมก็เลยเอาอันนี้มาใช้แบบไม่ได้คิดอะไรเลยในวันนั้น ซึ่งคนในวงก็เลยบ้าจี้ ดันชอบตาม เลยใช้เป็นชื่อวงมาจนถึงทุกวันนี้เลยครับ

แล้วทำไมไม่ใช้คำว่า Copy That ?

คิง : ความหมายมันเหมือนกัน แต่บริบทในส่วนของ Copy That ผมรู้สึกว่ามันดูเข้าใจง่าย เพราะมันก็แค่คำว่า Copy กับ That เลย แต่พอเป็นคำว่า Roger That กลายเป็นว่าเราเองก็ยังพยายามหาความหมายให้กับชื่อนี้ด้วย แล้วผมก็รู้สึกว่า คำว่า Roger มันเป็นชื่อที่ค่อนข้าง old school ด้วย 

เล่าถึงการทำงานกับเพลงใหม่ล่าสุดอย่าง “จริงๆแล้ว… เธอมีใครอยู่ใช่ไหม” ให้ฟังหน่อย

คิง : ในแง่ของสไตล์เพลงค่อนข้างเปลี่ยนไปครับ อย่างเพลงก่อนหน้าคือ “คงต้องหายไป” ค่อนข้างเป็น Alternative กึ่งร็อก มีความไม่ซับซ้อนของทางดนตรี ดำเนินอย่างง่ายๆ แต่ความต่างก็คือ พี่ตูน Three Man Down ได้มาช่วยทั้งเนื้อร้องและทำนอง โดยที่มีกิตเข้ามาช่วยนิดหน่อย การตัดสินใจหลักๆ จะให้ตูนเป็นคนตัดสินใจ 

แต่พอมาเป็นเพลงล่าสุดอย่าง “จริงๆแล้ว… เธอมีใครอยู่ใช่ไหม” มันเริ่มจากการที่เราเอา demo ตัวเดิมทีกลับมาพัฒนาต่อ เราตัดสินใจกันเองและมีส่วนร่วมแบบ 100% ทั้งการคิด การตัดสินใจ และแก้ไขด้วยกันทั้งสามคน 

กิต : ถ้าเทียบกับเพลงที่ผ่านมาคือเรามีโปรดิวเซอร์ที่คอยดูแลเพลงให้เรา ประมาณว่าโปรเจกต์เพลงอยู่ที่เขา แต่เพลงนี้โปรเจกต์เพลงอยู่กับเรา เราก็ต้องจัดการกันเอง เรียบเรียงกันเอง เข้าไปมิกซ์และมาสเตอร์กันเอง ทั้งคุมอัดคุมร้องกันเองด้วย 

ที่มาที่ไปของเพลง “จริงๆแล้ว… เธอมีใครอยู่ใช่ไหม

กิต : ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเคยเจอ เป็นโมนเมนต์ที่เราคุยกับใครสักคน แล้วเรารู้สึกว่าเขากำลังมีใครอีกคนอยู่หรือเปล่า เพราะบางทีเขาอาจจะตอบช้าหรือหายไปหลายๆ วัน เป็นสิ่งที่ผมก็เจอกับตัวเองด้วย คนอื่นก็เคยเจอโมเมนต์แบบนี้ด้วย ผมเลยเริ่มเขียนเป็นเพลงขึ้นมา เขียนตั้งแต่ยังไม่ได้ทำวงนี้เลยด้วยซ้ำ พอได้เลือกเพลงนี้มาใช้ พวกเราก็แก้ไขทั้ง verse ท่อน pre-corus แต่เก็บไว้เฉพาะท่อน hook ที่ไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย เหมือนทำเพลงขึ้นมาใหม่เลย แค่ยังมีฮุกเดิมอยู่ 

มีท่อนที่ชอบในเพลงเป็นพิเศษไหม

กิต : ผมชอบท่อน “ถ้าเธอไม่ชัดเจนอย่างนี้ ให้รอเป็นปีก็คงไม่ไหว” คือการรอเป็นปีมันนานมาก แต่มันก็แค่คำเปรียบเปรยว่าใครจะไปรอนานขนาดนั้น ประชดประชัน

มีโมเมนต์ประทับใจระหว่างที่ทำเพลงนี้ 

คิง : เพลงนี้คือเราทุกคนรู้หน้าที่มากขึ้น เก่งขึ้น พัฒนาขึ้น เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น แต่ว่าก็ต้องทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ครับ 

กิต : ผมชอบตอนที่ทุกคนคิดเหมือนกันในหลายๆ ครั้ง เช่นพอเคาะว่าจะเอาแบบนี้ แล้วทุกคนก็โอเคกันหมดเลย ซึ่งมันเกิดขึ้นกับการทำเพลงนี้หลายครั้งมาก ผมเลือกไม่ถูกเลยว้าจะชอบโมเมนต์ไหนดี เพราะชอบทั้งหมดของการทำเพลงนี้เลยครับ

เบส : เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่เราทำด้วยกัน อยู่ด้วยกันทุกขั้นตอน เราออกความคิดด้วยกันตลอด

เรียกได้ไหมว่าเพลงนี้เป็นตัวตนของ Roger That ?

คิง : ได้นะ เพราะว่าทั้งหมดมันผ่านทั้งวิธีคิดและการตัดสินใจของพวกเราทั้งสามคนจริงๆ โดยที่ถ้าเป็นแต่ก่อนอาจจะตัดสินใจไม่ได้ ต้องหาใครสักคนมาช่วยตัดสินใจ 

กิต : ถ้าเพลงต่อไปมันไม่ได้ออกมาในรูปแบบประมาณนี้ ผมรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ผิดอะไรนะ เราไม่ได้กำหนดเกณฑ์ว่าเพลงของเราจะต้องเป็นแบบไหน ไม่กำหนดว่าเพลงนี้จะเป็นตัวตนของเราทั้งสามคนเสมอไป มันไม่มีกรอบ 

คิง : ขอขยายความในส่วนของกิต คือพวกเราไม่ได้ฟิกซ์ว่าเพลงแต่ละเพลงของพวกเราจะต้องเป็นดนตรีแบบนี้ เพลงแบบนี้ เราตั้งใจว่าเพลงนี้ในส่วนของความรู้สึกของเพลงนี้มันควรจะเป็นดนตรีแบบไหนมากกว่า 

เคยเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนมาแล้วบ้าง

กิต : ที่ได้เอาเพลงใหม่ไปเล่นจะมี Campus School Tour เพราะเราเล่นเพลงนี้ตั้งแต่เพลงยังไม่ปล่อยเลย 

คิง : ตอนที่เอาเพลงนี้ไปเล่นใน Campus School Tour  ที่โรงเรียนหนอกจอง ผมก็บิ๊วอารมณ์ หน้าที่ผมของผมคือพยายามสื่อสารเพลงนี้ออกไปให้ได้มากที่สุด เพราะคิดว่าน้องๆ วัยมัธยมฯ น่าจะเป็นวัยที่อ่อนไหวกับเรื่องนี้มากที่สุดรองจากเรื่องเรียน วัยที่แบบรักแรง เจ็บแรง รักใครไม่เป็น ไม่มีทรง ซึ่งผมก็หวังว่าอนาคตจะได้มีโอกาสไปเล่นงานเฟสติวัลอื่นๆ บ้างเหมือนกัน 

โมเมนต์ไหนที่ประทับใจจากการเล่นใน Campus School Tour

กิต : เลือกไม่ถูกเพราะว่ามันดีไปหมดเลย การได้เล่นสคูลทัวร์มันเป็นอะไรที่แบบว่า ศิลปินใหม่ต้องไป เพราะน้องๆ เขาเต็มที่ น้องๆ เขาเปิดรับ น้องเหมือนผ้าขาวครับ เราเอาเพลงอะไรใส่เข้าไปน้องเขาก็รับ เราเอาโคลนสาดเข้าไปน้องเขาก็เลอะ (หัวเราะ)  

คิง : ทั้งวงใหม่หรือวงรุ่นพี่เอง ถ้ามีโอกาสผมก็อยากให้ไปเติมพลังงานดีๆ กับการเล่นคอนเสิร์ตที่โรงเรียนหรือมหา’ลัยฯ เพราะต่อให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ หรือกังวลอะไรตอนขึ้นโชว์ พอขึ้นไปแล้วทุกอย่างมันเกินคาดของเราแน่ๆ 

เพราะน้องๆ เชียร์อัพมาก ทำให้เรารู้ว่ากำลังใจและพลังงานนี้ ย้ำให้รู้ว่าเราเล่นไปเพราะอะไร สิ่งนี้เป็นอีกเชื้อเพลิงดีๆ ในวันที่เราหมดกำลังใจ ผมก็กลับมามองสิ่งเหล่านี้ เราก็เลยรู้สึกว่า ความสุขมันอยู่ตรงนี้ และมันเป็นการสร้างฐานแฟนคลับในอนาคตด้วย เพราะเขาเปิดใจโดยที่เขาไม่มีเงื่อนไขเลย เขาพยายามจะร้องตามด้วยเขาก็เปิดเนื้อเพลง เปิดทุกอย่างตาม เราขอบคุณน้องๆ เขาจริงๆ 

มีชื่อด้อมไหม

คิง : ยังไม่มีเลยครับ ตอนแรกว่าจะตั้งเป็น Rogerian แต่มันก็ยังไงๆ อยู่ เลยคิดว่ายังไม่ตั้ง ถ้าจะมีชื่อสักชื่อ ก็อยากให้แฟนคลับตั้งกันเองดีกว่า ตอนนี้เราอยู่ในช่วงก่อร่างสร้างตัว

เบส : เรามี open chat ด้วยครับ ก็คือมีน้องๆ คอยมาส่งรูป คอยมาเชียร์เรา หรือกระทั่งทำรูปและตัดต่อให้เราด้วย open chat ของเราก็แปะลิงก์ไว้ที่ไอจีของวงเลยครับ

ความลงตัวของทั้งสามคน

กิต : เราไม่ค่อยทะเลาะกันครับ เราใช้เหตุผลในการตัดสินใจ เนื่องจากมันมีสามคน ก็ต้องยกมือ เช่นว่ากิตกับเบสเขียนเนื้อร้องมา ก็เป็นพี่คิงเลือก ทุกอย่างมันก็เลยลงตัว

คิง : สุดท้ายมันต้องมีเหตุผลกับการเลือกของเรา ก็ต้องบอกว่าไม่ชอบเพราะอะไร เขาจะได้เข้าใจ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเพราะไม่ชอบเฉยๆ เพราะพวกเราทั้งสามคนก็อยากให้ไอเดียของตัวเองอยู่ในเพลงอยู่แล้ว และสุดท้ายต้องมีตรงกลางของวงที่รู้สึกว่า มันต้องผ่านไอเดียจากทั้งสามคน ความลงตัวก็คือ เราพยายามจะทนุถนอมความรู้สึกของกันและกันอยู่ตลอด ต่อให้มันจะมีเรื่องที่ไม่โอเค แต่มันเป็นธรรมดาครับ เราก็ต้องคุยกัน มีอะไรก็หาจังหวะคุย เอาขุ่นไว้ข้างใน เอาใสไว้ข้างนอก 

แต่ละคนมีศิลปินที่ชอบไหม

กิต : ผมเป็นมือกีต้าร์ก็จริง แต่ผมไม่ค่อยได้มีไอดอลด้านมือกีต้าร์เท่าไร ถ้าชอบก็คง Cory Wong ถ้าในไทยจะมีหลายคนอย่างพี่ต้า Paradox ผมชอบวิธีการทำงานของพี่ๆ วง Paradox มากครับ เขามีตั้งแต่เพลงแจ๊ส ยันเพลงเมทัล เขาอยากทำอะไรก็ทำเลย ช่วงที่ฟังเพลงอินดี้ก็จะชอบพี่ๆ วง Scrubb ครับ ซึ่งการทำงานปัจจุบันก็จะได้พี่ๆ ที่อยู่รอบตัวของ Scrubb ที่เขาซัพพอร์ต Scrubb ครับ

เบส : ผมไม่ค่อยมีไอดอลนะ แต่ได้แรงบันดาลใจหรือฝึกสกิลก็จะฟัง ETC ได้ฝึกทักษะจากเขา พาร์ทเปียโนก็ชอบพี่โต๋-ศักดิ์ศิทธิ์ ที่เขามีเมโลดี้แปลกๆ ให้ผมได้ฝึกและเอาปรับใช้ 

คิง : ถ้าเอาพลังงานเลยก็พี่ตูน Bodyslam ที่รู้สึกว่าเขาคือพลังงานบวก ผมชอบเอเนอร์จี้ของเขา การวางตัว หรือวิธีคิดในการส่งพลังงาน หรือถ้าศิลปินต่างชาติผมจะมองเรื่องการส่งพลังให้คนอื่นเป็นหลัก อย่าง chester bennington และก็อย่าง harry styles ในเรื่องของการเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์เป็นหลักครับ 

อย่างเวลาผมจะทำการแสดง ผมจะนึกว่าผมจะอยากเป็นอะไร เพราะผมเคยเห็นสเตตัสพี่ๆ ในวงการเคยโพสต์ไว้ว่า “ศิลปินถ้าจะประสบความสำเร็จมันต้องมีความเบียว” ผมเลยถามพี่ๆ สื่อให้เขาช่วยอธิบายได้ไหมว่าคำนี้แปลว่าอะไร เขาเลยอธิบายง่ายๆ ว่า มันคือการที่เราเชื่อว่า เราคือคนนั้น 

เบส : คือเราเคยไปเล่นสคูลทัวร์ หรืองานโชว์ต่างๆ ปกติเราก็จะแนะนำตัวว่า “สวัสดีครับพวกเราวงนี้ จากค่ายนี้” แต่มันธรรมดา ใครๆ ก็พูด คิงเลยเปลี่ยนคำแนะนำตัวครับ

คิง : ผมก็เลยเปลี่ยนเป็น “สวัสดี พวกฉันโรเจอร์แดด จากเทโรมิวซิคคคคคคค” แล้วทำหน้านิ่งๆ กันด้วย  เพราะในวงการนี้มันต้องใหม่ไม่เหมือนใคร ต้องโดดเด่นด้วย ต้องหาให้เจอ ผมก็เลยเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่าเบียวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง

มองภาพ Roger That ในอนาคตไว้ยังไงบ้าง

คิง : ผมไม่เขินอายนะ ผมอยากประสบความสำเร็จขั้นที่ว่าอยากจัดคอนเสิร์ตที่ราชมังฯ ให้ได้ ผมตั้งสูงอยู่แล้วเพราะมันสนุก มันท้าทาย ตั้งความฝันไม่ผิดนะ เพราะผมรู้สึกว่า มันเป็นหมุดไมล์เพื่อที่จะดูว่าเราจะไปได้สักแค่ไหน และผมเชื่อว่าการประสบความสำเร็จด้วยการมีชื่อเสียง มันสามารถนำชื่อเสียงของเราไปใช้เป็นกระบอกเสียงในเรื่องอื่นๆ ต่อด้วย เช่น ความฝันของผมคือการช่วยเหลือหมาจรแมวจรด้วยครับ

เบส : คิดว่าแทบทุกวงต้องการให้วงตัวเองมีคอนเสิร์ตใหญ่หรือทัวร์หลายๆ ที่ แต่ผมก็พยายามตั้งเป้าหมายไว้ทีละขั้นครับ จริงๆ ก็อยากให้เพลงเป็นที่รู้จักมากขึ้นก่อน แล้วค่อยๆ เติบโตไปด้วยกันครับ 

กิต : เหมือนกันครับ การมีคอนเสิร์ตใหญ่คือเป้าแรกหลังจากนี้ครับ มีคนมาดูแบบซื้อบัตรสามร้อยคนก็ยิ้มแล้วครับ แบบที่ทั้งสามร้อยคนตั้งใจมาดูเราจริงๆ  

คิง : เส้นทางนี้มันคือมาราธอนครับ ก็ต้องอดทนอย่างเดียว ผมเชื่อว่าความพยายามไม่เคยทำร้ายใครนะ แต่อาจจะต้องใช้เวลาจริงๆ

Contributors

เด็กมนุษย์ฯ ผู้ชื่นชอบการออกไปเดินเที่ยวคนเดียว เอนจอยกับการเต้นและการกิน ปัจจุบันกำลังพยายามใช้ชีวิตแบบ Slow Life อยู่

คอนเทนต์สาวที่ชอบใช้ชีวิตแต่โดนชีวิตสู้กลับอยู่ตลอด ความฝันสูงสุดแค่อยากนอนฟังเพลงกอดแมวอ้วนไปวันๆ