เชื่อว่าหลายๆ คน เวลาที่จะทำสไลด์หรือพรีเซนเทชัน การเลือกใช้แบบตัวอักษร หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า “ฟอนต์ (Font)” ถือเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว เพราะฟอนต์คือหัวใจสำคัญที่จะบ่งบอกถึงน้ำเสียง หรือรูปแบบของสไลด์ที่เราทำได้เลย

หลายคนอาจทำพรีเซนเทชันใน Canva หรือ Google Slide ซึ่งฟอนต์ใน Canva หรือ Google Doc มักมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน จนไปถึงเทมเพลตสำเร็จรูปที่มีพร้อมให้ หรือจะทำเทมเพลตขึ้นมาเองก็ย่อมได้

แต่เรามักจะมี “ฟอนต์ในดวงใจ” ที่ใช้งานกันเป็นประจำ นอกจากจะเป็นฟอนต์ที่สวยงามแล้ว ยังเป็นฟอนต์ที่เข้ากันได้ดีกับทุกรูปแบบ ทุกสไตล์ วันนี้ ArtDi-alogue จะมาพูดถึงฟอนต์ที่เดาว่าน่าจะเป็น “ฟอนต์ในดวงใจ”  ของชาว Canva Lover แน่นอน ฟอนต์ที่ว่านั้นก็คือ 

“Montserrat”

ถ้าย้อนกลับไปในอดีตแต่ไม่นานมาก ฟอนต์แบบไม่มีเชิงฐาน (San Serif) หรือฟอนต์ที่มีสไตล์แบบโมเดิร์น ที่เรารู้จักหน้าค่าตา ก็คงหนีไม่พ้น Helvetica, Gotham, Avenir, Futura ซึ่งเป็นแบบตัวอักษรที่นิยมใช้ในงานโฆษณา สิ่งพิมพ์ แม้กระทั่งโลโก้ของแบรนด์ระดับโลก 

แต่รู้ไหมว่าแบบตัวอักษรที่ว่านี้ใช้งานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว จนกระทั่ง ศตวรรษที่ 21 เราก็ได้รู้จัก Montserrat ฟอนต์ที่เพิ่มเข้ามาในลิสต์ของเหล่าผู้ใช้งานทั่วไป นักออกแบบระดับมืออาชีพ จนไปถึงการเป็นฟอนต์ในระดับราชการกันเลย

แล้วฟอนต์ Montserrat เป็นแบบไหนกันนะ ?

Montserrat คือแบบตัวอักษรเรขาคณิตที่ไม่มีเชิงฐาน (Geometric San Serif) เปิดตัวเมื่อปี 2011 ออกแบบโดย Julieta Ulanovsky นักศึกษาชาวอาร์เจนตินา ผู้อยากสะท้อนจิตวิญญาณของเมืองบัวโนสไอเรสประจักษ์ให้โลกเห็น ผ่านการออกแบบตัวอักษร จนกลายเป็นหนึ่งในแบบตัวอักษรที่นิยมใช้งานมากที่สุด ติด 1 ใน 5 อันดับแบบตัวอักษรใน Google Font ที่มีผู้ใช้เข้าไปดูมากที่สุดถึง 2.7 ล้านล้านครั้ง และถูกใช้งานในเว็บไซต์มากกว่า 17 ล้านเว็บไซต์ และมักจะติดในลิสต์ฟอนต์แนะนำของ Canva อีกด้วย

แล้วอะไรคือต้นกำเนิดของแบบตัวอักษรที่ว่านี้ ทำไมแบบตัวอักษรที่ตั้งชื่อจากเมืองเมืองหนึ่ง ถึงครองใจผู้ใช้งานได้ทั้งโลก วันนี้ ArtDi-alogue จะมาเล่าประวัติของฟอนต์นี้สู่กันฟังในฉบับย่อ

จากศิลปะในย่าน สู่แบบตัวอักษรระดับโลก

ต้นกำเนิดมีที่มาจากข้อความในโปสเตอร์ ป้ายตัวอักษรบนหลังคาร้านคาเฟ่ใน Montserrat ย่านประวัติศาสตร์ของเมืองบัวโนสไอเรส ที่ Julieta ผ่านไปผ่านมาทุกวัน จนเกิดเป็นไอเดียและแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นสร้างแบบตัวอักษรชุดนี้ขึ้นมาเมื่อปี 2010 ซึ่งในขณะนั้น Julieta กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ในคณะสถาปัตยกรรม การออกแบบ และผังเมือง มหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส

ระหว่างที่ Julieta เริ่มศึกษาและเก็บรวบรวมงานศิลปะจากข้อความในโปสเตอร์ ป้ายถนน ป้ายตัวอักษรบนหลังคาร้านคาเฟ่ เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1920-1950 เธอค้นพบว่างานศิลปะต่างๆ เหล่านี้กำลังค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา และไม่ได้มีอยู่มากดังเช่นในอดีต นั่นจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่กระตุ้นให้เธอพัฒนาแบบตัวอักษรนี้ขึ้น ซึ่งเธอเองก็หวังว่าจะรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของตัวอักษรในย่านเมืองจากต้นศตวรรษที่ 20 นี้เอาไว้ได้ ผ่านการออกแบบตัวอักษรให้ร่วมสมัยและให้ผู้คนสามารถใช้งานได้ทั่วโลก

ผ่านไปหนึ่งปี Montserrat เปิดตัวขึ้นในเว็บไซต์ Kickstarter ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการระดมทุนแบบ Crowdfunding หรือการเปิดให้คนทั่วไปเข้าร่วมระดมทุนในโปรเจกต์ที่ตัวเองสนใจ ซึ่งมีผู้ร่วมระดมทุนกว่า $9,747 หรือประมาณ 346,000 บาท

ในปีเดียวกัน แบบตัวอักษร Montserrat ก็เสร็จสมบูรณ์ เข้าไปอยู่ใน Google Font ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดได้ฟรี และสามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย ผ่านมาแล้ว 12 ปี Montserrat กลายเป็น 1 ใน 5 อันดับแบบตัวอักษรใน Google Font ที่มีผู้ใช้เข้าไปดูมากที่สุด กว่า 2.7 ล้านล้านครั้ง และถูกใช้งานในเว็บไซต์มากกว่า 17 ล้านเว็บไซต์

Montserrat ไม่ใช่แค่ตัวอักษร ไม่ใช่แค่ชื่อเมือง แต่คือช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์

“ตัวอักษรไม่ใช่แค่รูปทรง แต่มันคือช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ นี่อาจเป็นเหตุผลที่มีผู้ใช้ทั่วโลก เพราะ Montserrat ไม่ใช่แค่เมือง แต่คือสิ่งย้ำเตือนให้ผู้คนตระหนักถึงเมืองอื่นๆ ด้วย” Julieta กล่าว 

นอกจากนี้ Julieta ยังเสริมด้วยว่า Montserrat คือหนึ่งสิ่งที่เธอจะคลุกคลีและอยู่กับมันไปตลอดชีวิต เพราะยังมีตัวอักษรในย่านเมืองอีกมากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบ และวิธีการออกแบบตัวอักษรก็ต่างจากการออกแบบตัวอักษรธรรมดาอย่างสิ้นเชิง เพราะสิ่งที่ทำอยู่นั้น เปรียบเสมือนการแปลงชุดข้อมูลอนาล็อกที่มีความสมบูรณ์แบบในตัวอยู่แล้ว มาแปลงให้อยู่ในรูปของดิจิทัล 

ในตอนนี้นเองแบบตัวอักษร Montserrat มีแบบตัวอักษรจำนวน 9 น้ำหนัก (จากน้ำหนักบางไล่ไปดำ) และมีแบบตัวอักษรทางเลือกอย่างรุ่น Alternate และรองรับตัวอักษรซีริลลิก ซึ่งเป็นตัวอักษรในกลุ่มภาษาสลาวิกด้วย

สูงใหญ่ โค้งสั้น ช่องกว้าง

จุดเด่นของ Montserrat ถ้าพูดในเชิงโครงสร้างคือ มี x-height ขนาดที่ใหญ่ ช่วงโค้งของตัวอักษรสั้น และมีช่องภายในพื้นที่สีขาวกว้าง ทำให้ตัวอักษรสามารถแสดงผลได้ดีแม้ว่าจะใช้ตัวอักษรขนาดเล็กเล็กก็ตาม 

ข้อดีของคุณสมบัตินี้คือสามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ ป้ายตัวอักษร โลโก้ งานออนไลน์ หรือเป็นฟอนต์ในเว็บไซต์ก็ได้ Montserrat จึงกลายเป็นแบบตัวอักษรยอดนิยมของผู้ใช้งานตั้งแต่คนทั่วไป นักออกแบบ บริษัท หรือแม้กระทั่งภาครัฐเอง ก็มีการใช้งานชุดตัวอักษรนี้ด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2018 รัฐบาลเม็กซิโกได้เผยแพร่คู่มือการใช้งานกราฟิกสำหรับปี 2018-2024 ซึ่งใจความในหน้าหนึ่งได้ระบุให้ Montserrat เป็นชุดตัวอักษรทางการ เพื่อใช้สำหรับงานเอกสาร สไลด์การนำเสนอ และสื่อประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล หรือในปี 2021 รัฐบาลเปอร์โตริโก ประกาศให้ Montserrat เป็นชุดตัวอักษรทางการ เพื่อใช้ในข้อความส่วนเนื้อหา และโลโก้ของหน่วยงานต่าง ๆ

ฟอนต์แห่งปี

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ความฮอตฮิตของฟอนต์ตัวนี้ ได้กลายมาเป็น “ฟอนต์แห่งปี” (คล้ายๆ กับการประกาศ Pantone ประจำปีนั่นแหละ) ที่ Fiverr แพลตฟอร์มหางานและจ้างงานสำหรับเหล่าฟรีแลนซ์สายครีเอเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ประกาศให้ Montserrat เป็นฟอนต์แห่งปี 2024 จากการวิเคราะห์และทำแบบสำรวจจากเหล่านักฟรีแลนซ์ ที่เลือกใช้ฟอนต์ตัวนี้ในการทำโลโก้มากที่สุด

เมื่ออ่านถึงตรงนี้จบแล้วเชื่อว่าหลายคนจะหลงรัก Montserrat มากขึ้น เพราะการออกแบบตัวอักษร ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำให้สวยงาม หรือมีฟังก์ชันการใช้งานที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการมองลึกลงไปถึงสิ่งที่ผู้สร้างตั้งใจออกแบบ และใส่เรื่องราวผ่านชุดประสบการณ์ที่มี ให้แบบตัวอักษรมีชีวิตชีวา มีเอกลักษณ์เฉพาะที่น่าสนใจ เพราะ

Everything is Design, Design is Everything

หากใครสนใจแบบตัวอักษรชุดนี้ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดใช้งานได้ใน Google Font 

https://fonts.google.com/specimen/Montserrat

—-

ที่มา

Github

Google Design

Kickstarter

Gobierno De Mexico

Puerto Rico Innovation & Technology Service

Fiverr.

อาร์ตไดผู้รักงานออกแบบที่เขียนคอนเทนต์ได้นิดหน่อย ชอบเล่าตัวเลขและข้อมูลด้วยภาพ ชอบกินเส้นมากกว่าข้าว ชอบดูหนัง ชอบแมว และชอบเธอ