“ดนตรีอยู่กับเรามาตั้งแต่จำความได้เลย มันเหมือนซาวด์แทร็กชีวิต เราจะมีซาวด์แทร็กตามช่วงวัย ดนตรีเป็นคุณค่าหนึ่งของชีวิตเรา ชีวิตเราคือดนตรี”
คือคำตอบของ MAMIO เมื่อเราถามว่าดนตรีมีอิทธิพลกับชีวิตของเธออย่างไร
มะเหมี่ยว-สุทธิภัทร สุทธิวาณิช เดินทางสู่เส้นทางดนตรีในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ชื่อ MAMIO (มามิโอะ) มาครบ 1 ปีแล้ว เป็นโอกาสอันดีที่เราได้จะได้พูดคุยถึงตัวตน เส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยว และอนาคตของ MAMIO รวมไปถึงซิงเกิลใหม่ล่าสุดอย่าง ‘คนประหลาด (Toxic)’
เพราเราทุกคนล้วนมีใครสักคนที่เป็น ‘คนประหลาด’ เข้ามาอยู่ในชีวิตเราสักช่วงเวลาหนึ่ง เพลงนี้เปรียบเสมือนตัวแทนที่จะมาปลดปล่อยความรู้สึกของทุกคนให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่แย่ๆ หรือเผชิญกับความ Toxic Relationship และเดินหน้าใช้ชีวิตกันต่อไป

M-A-M-I-O
“จริงๆ MAMIO มาจากมะเหมี่ยว เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า M-A-M-I-O” เธอเล่าถึงที่มาของชื่อใหม่ด้วยรอยยิ้ม “เราพยายามคิดว่าจะทำยังไงให้คนเห็นแล้ว อ๋อ อันนี้คือเรา งั้นตั้งให้คนเรียกว่า mamio (มามิโอะ) ไปเลยละกัน นึกถึง MAMIO จะได้นึกถึงเรา”
การก้าวสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวภายใต้ชื่อ MAMIO เปิดโอกาสให้มะเหมี่ยวได้ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง 100% สิ่งนี้ทำให้เธอได้สำรวจมุมต่างๆ ที่ไม่เคยได้ลองมาก่อน ทั้งการเล่าเรื่องในเพลง เสื้อผ้าที่ไม่เคยใส่ และ Art Direction ที่จัดจ้านมากขึ้น
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้ยากเลย มันสนุกมาก เหมือนการที่เราได้ค้นหาอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา”
MAMIO นิยามสไตล์เพลงของตัวเองว่าเป็นการผสมผสานหลากหลายแนว หากต้องจำกัดความก็คงเป็น Downtempo ที่มีกลิ่นอายของ Dorian ผสมผสานความเป็น Jazz และ Folk เข้าด้วยกัน ความหลากหลายนี้สะท้อนตัวตนของเธอที่ “มีความลื่นไหล มีความเป็นไปได้ในหลายๆ แบบ” และไม่ต้องการจำกัดตัวเองไว้ในกรอบของแนวดนตรีใดแนวเดียว
คนประหลาด ศาสตร์แห่งการรับมือกับความ Toxic
ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของ MAMIO อย่าง ‘คนประหลาด (Toxic)’ คือการกลับไปสู่พื้นฐานของการแต่งเพลงจากการเริ่มต้นด้วยกีตาร์โปร่งง่ายๆ ผสมผสานกับกลิ่นอายยุค Alternative Rock ที่เธอชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก มะเหมี่ยวทำงานร่วมกับ ‘พี่โป โปษยะนุกูล’ โปรดิวเซอร์มากฝีมือ ในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้
“เราเริ่มจากชื่อเพลงก่อนเลย ตั้งชื่อว่า ‘คนประหลาด’ แล้วได้ท่อนฮุกมาท่อนหนึ่ง ซึ่งรู้สึกว่าฮุกนี้ค่อนข้างแข็งแรง” มะเหมี่ยวเล่าให้ฟังถึงโพรเซสของการทำเพลงนี้

“จากนั้นเราก็มานั่งหากับพี่โปว่าจะบรรยายความเป็นคนประหลาดออกมายังไงดี ให้คนรู้ว่าคนประหลาดเป็นแบบไหน เราค่อยๆ ปูเรื่องมา บรรยายลักษณะนิสัย การกระทำของเขา เพื่อที่จะมาตบท้ายว่า ‘อ่อ นี่คือคนประหลาด'”
นอกจากนั้น เราถามต่ออีกว่า ‘คนประหลาด’ สำหรับมะเหมี่ยวคือคนแบบไหน
“คนประหลาด หมายถึงคน Toxic ที่มักอยู่ในชีวิตของเรา เต็มไปด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียด” มะเหมี่ยวเปรียบเทียบไว้อย่างน่าสนใจว่า “เหมือนกางเกงในย้วยๆ ตัวหนึ่งที่มันทั้งขาดแล้วมันทั้งย้วย แต่เราก็ยังจะใส่มัน ทิ้งมันไปไม่ได้สักที” และกว่าจะรู้ตัวว่าเราเจอกับความ Toxic มาแล้ว ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าที่จะก้าวออกมาได้
มิวสิกวิดีโอของเพลงนี้กำกับโดย เอลิซ่า เปียง เพื่อนของเธอที่เคยร่วมงานกันมาหลายครั้ง มะเหมี่ยว มอบความไว้วางใจให้ 100% ปล่อยให้ผู้กำกับตีความเพลงและเล่าเรื่องในแบบของตัวเอง
“เอลิซ่าเล่าให้ฟังว่าจะทำคอนเซปต์เรื่องราวแบบนี้ จะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำตัวเหมือนถูกกระทำ แต่จริงๆ แล้วเธอคือคนที่ฆ่าคนอื่น และไม่ได้ฆ่าแค่คนเดียว เธอฆ่ามาหลายคนแล้ว และจะไม่หยุดฆ่า จะฆ่าต่อไปเรื่อยๆ”
เธออยากส่งสารไปถึงทุกคนที่อาจมีคน Toxic อยู่ในชีวิต “อยากให้ทุกคน ถ้าพูดตรงๆ ไม่ได้ ก็สื่อสารผ่านเพลงนี้ก็ได้ ให้เพลงนี้เป็นตัวแทนในการช่วยปลดปล่อยความรู้สึกที่ทุกคนเจอ ที่รู้สึกว่ากำลังโดนเอาเปรียบ กำลังโดนกระทำชำเรา” และที่สำคัญคือ “อยากให้เชื่อมั่นในตัวเอง ก้าวออกมาจากคนๆ นั้นให้ได้”


อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ MAMIO
“ดนตรีอยู่กับเรามาตั้งแต่จำความได้เลย” เธอเริ่มเล่า “มันเหมือนซาวด์แทร็กชีวิต เราจะมีซาวด์แทร็กตามช่วงวัย ดนตรีเป็นคุณค่าหนึ่งของชีวิตเรา ชีวิตเราคือดนตรี”
เราให้มะเหมี่ยวเลือกหนึ่งเพลงที่เหมือนเป็นสมุดบันทึกชีวิตของ MAMIO ในตอนนี้ เธอเลือกเพลง ‘มายา’ ที่มีกลิ่นอายของ Theatre Classical ความ Minor และความหลอน ในเนื้อหาที่สะท้อนการพบเจอว่าสิ่งที่เคยคิดเคยฝันไว้ กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด “เป็นบทเรียนที่สอนไว้ว่าให้รักตัวเองมากๆ อย่าไปเชื่อใจใครมากๆ ขนาดนั้น”
สำหรับอนาคตอันใกล้ MAMIO วางแผนจะปล่อยอัลบั้มในปีนี้หรืออย่างช้าก็ปีหน้า พร้อมทั้งอยากออกทัวร์ในประเทศไทย “ได้ไปเล่นทุกๆ ที่ ได้ไปเล่นต่างจังหวัด” และหากมีโอกาส เธออยากร่วมงานกับ ‘เรจิส’ ศิลปินที่เธอชื่นชอบ “เขาเท่มาก และมีกลิ่นไอของความ old school jazz แบบที่เราชอบ คิดว่าถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกัน น่าจะออกมาเท่ดี”
มาถึงคำถามสุดถาม เราถามเธอว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ อยากบอกกับตัวเองในอดีต เธอนั่งคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า
“ช่างแม่ง แล้วก็มั่นใจในตัวเองไว้ มาถูกทางแล้ว”
